เรื่อง : eyejung, ภาพทีม : CAMERART

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine ฉบับ 245/2018 February

เปิดต้นปีมา eyejung ก็ไฟแรงประกาศทริปแรกของปี กับ ทริปถ่ายภาพ 2 จังหวัด  เมืองเล็กๆ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่ดังติดอันดับโลก เดี๋ยวจะมาเล่าให้อ่านกันนะจ้ะ แต่ตอนนี้เราก็เรากลับไปสู้โหมดกิจกรรมด้านการศึกษากันบ้าง ทาง CAMERART ก็ยังคงสานต่อกิจกรรมสาระด้านการถ่ายภาพ เปิดประเดิมรอบแรกกับพื้นฐานด้านการถ่ายภาพ (Basic Digital Photography) แถมครบรอบ 30 ปีทั้งที…มีการแจกให้เข้าอบรมฟรีบางส่วนอีกด้วย ใจดีแบบนี้จะไม่รัก CAMERART ได้ไงเนอะ อบรมกันแล้ว ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยกับ…กิจกรรมทริปการถ่ายภาพ ที่รอบแรกก็มีความพิเศษแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับสมาชิกทุกท่านที่มาทริปนี้

ด้วยความรักหรือคิดถึงกันมาก หรือจะด้วยเหตุผลใดๆ เราก็ดีใจที่เปิดลงชื่อไม่ถึงอาทิตย์ สมาชิกก็มาลงชื่อกันอย่างล้นหลาม จนเต็มทะลุรถบัส 50 จนต้องเสริมรถตู้ถึง 2 คัน กลายเป็นผู้ร่วมทริป 70 กว่าท่าน ออกเดินทางกันเช้าวันที่ 21 มีนาคม จุดนัดหมายแรก ป้ายรถเมล์โอสถศาลา ที่ตอนนี้กำลังปรับปรุงอยู่ สมาชิกมากันครบรีบออกเดินทางไปรับจุดที่สอง ที่ Big C พระรามสอง งานนี้ได้ พี่แพท ช่วยเช็คคนให้ เรียกว่าเบาแรง  eyejung ไปได้เยอะเลย รับจุดที่สองเรียบร้อย แวะทานอาหารเช้ากันก่อนที่มหาชัยเมืองใหม่ และเราก็เข้าสู่โปรแกรมท่องเที่ยวถ่ายภาพจุดแรก กับการท่องเที่ยววิถีชีวิตชุมชุน ที่ หมู่บ้าน เบญจรงค์ ดอนไก่ดี ที่อยู่ในอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร การเดินทางสะดวกเลี้ยวซ้ายไปทาง อำเภอกระทุ่มแบน แล้วจะมีป้ายบอกทางไป หมู่บ้าเบญจรงค์ ดอนไก่ดี สังเกตป้ายดีๆ รับรองไม่หลงแน่นอน เพราะหมู่บ้านแหล่งนี้เป็นหมู่บ้านดีเด่นด้านการท่องเที่ยวเมื่อปี 2550 เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดสมุทรสาคร เราจึงเห็นป้ายแนะนำเส้นทางชัดเจนจนถึงหมู่บ้านเลยที่เดียว

 หมู่บ้านเบญจรงค์ ดอนไก่ดี เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีอยู่ 5 หลังคาเรือน ที่ทำเกี่ยวกับเครื่องเบญจรงค์ ซึ่งครั้งนี้ในการมาท่องเที่ยวเราได้ทำการติดต่อประสานงานมาล่วงหน้ากับประธานกลุ่ม คุณป้าอุไร แตงเอี่ยม ได้รับการต้อนรับอย่างดีมาก และได้ พี่หนูเล็ก ประภาศรี พงษ์เมธา เลขานุการกลุ่มหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี ช่วยประสานงานและเป็นไกด์พาทัวร์หมู่บ้าน ถึงแม้ว่าจะติดงานกัน แต่ก็สละเวลามาพาพวกเราชมหมู่บ้าน จุดหมายแรกในการมาหมู่บ้านคือที่ บ้านป้าอุไร ลงรถปุ๊บ เราก็จะเจอลวดลายบนกำแพงสีสันสดใสที่บอกเรื่องราวของหมู่บ้านก่อนจะเห็นของจริง แค่จุดแรกสมาชิก ทุกท่านก็ไม่รอช้าขอเก็บภาพสวยๆ ตรงนี้ก่อนเลย เดินเข้ามาปุ๊บ เจอแมวสีขาว นั่งรอเป็นแบบ ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านคอยต้อนรับ เจ้าลัคกี้ ก็ให้พี่ๆ ชาว CAMERART เก็บทุกความประทับใจ จน eyejung ต้องขอเวลานอกพักเบรกเรื่องการถ่ายภาพกันสักครู่ เพราะเราจะมาฟังป้าอุไร แนะนำหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี ของดีประจำจังหวัดสมุทรสาคร หมู่บ้านแหล่งนี้มีอยู่ 5 ครัวเรือน ทำเครื่องเบญจรงค์มากว่า 30 ปี ได้ความรู้มาจากโรงงานเสถียรภาพ ที่ทำโรงงานชามตาไก่ แต่ต่อมาโรงงานปิดกิจการการ จึงร่วมตัวกันเพื่อผลิตถ้วยชามที่เป็นลายคราม และพัฒนารูปแบบมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเป็นเครื่องเบญจรงค์ที่ได้รับรางวัลเป็นสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว อย่างที่บอกว่าหมู่บ้านนี่ทำเครื่องเบญจรงค์กันทั้งหมด แต่ละบ้านก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว  เรามาดูบ้านแรกบ้านป้าอุไร ประธานกลุ่มกันก่อน บ้านป้าอุไร จะเน้นลวดลายในสมัยราชกาลที่ 2 และราชการที่ 5 ลวดลายเรียกว่าวิจิตรตระกาลตา ราคาบางชิ้นก็ตระกาลใจมาก จนกลัวสมาชิกที่เข้าไปเก็บภาพจะไปกวาดของเขาล่วงลงมาแตกหัก งานนี้ได้วางกล้องกันหมดกระเป๋าแน่ๆ eyejung ต้องคอยบอกเตือนกันตลอดเวลาและอีกเรื่อง คือ อย่าหยิบจับของเขา โดยเฉพาะเครื่องมือในการเขียนลาย เพราะมันมีส่วนผสมของทองคำเค ที่มีราคาแพงมาก ไปพลาดพลั้งทำของเขาเสียหายมาจะไม่ดี เพราะเขาอุตส่าห์ให้เข้าชมฟรีแล้ว ก็อย่าได้สร้างความลำบากใจให้กับเขา เพราะความสงสัย อยากรู้ให้ถาม อย่าได้หยิบจับเอง

ภาพประจำทริป รางวัลที่ 1  ภาพถ่ายโดย : เตโชทัย พันธ์น้อย

ภาพประจำทริป รางวัลชมเชย  ภาพถ่ายโดย : ประพันธ์ อัศวแก้วฟ้า

จาก บ้านป้าอุไร เราก็มา บ้านพี่แดง จะเน้นเครื่องเบญจรงค์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นนาฬิกา กรอบรูป เป็นการ Modify เครื่องเบญจรงค์ให้ดูทันสมัยขึ้น และอีกบ้าน คือ บ้านพี่หนูเล็ก ที่ครั้งนี้เราให้พี่หนูเล็กช่วยเซ็ตซีน เพื่อให้เราได้เก็บภาพถึง 2 มุม กับการเขียนลายเครื่องเบญจรงค์ จุดเด่นคือ เบญจรงค์พุทธประวัติ ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายไม้เลื้อย นอกจากนี้บ้านพี่หนูเล็กยังร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อน และอีก 2 บ้าน คือ บ้านปานรดาเบญจรงค์ นอกจากจะดูเครื่องเบญจรงค์แล้วที่นี่ยังมีโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อน เรียนรู้วิถีชีวิตชุ่มชนอย่างครบวงจร และบ้านสุดท้าย บ้านสังวาลเซรามิก วันนี้ไม่มีให้ดู เพราะวันอาทิตย์งานปั้นหยุด มาช่วงวันจันทร์–เสาร์ เราจะได้ดูแบบครบกระบวนการทำเครื่องเบญจรงค์ วันนี้พาสมาชิก CAMERART ทุกท่านบอกไม่เคยรู้เลยว่า จะมีหมู่บ้านที่มีของดีซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดสมุทรสงคราม แถมไม่ไกลจากกรุงเทพ เป็นแหล่งรวมภูมิปัญญาที่เปิดต้อนรับทุกท่านเพื่อเข้าไปเรียนรู้การทำเครื่องเบญจรงค์ หรืออยากเลือกซื้อ ที่นี่ก็มีจำหน่าย ชอบลายบ้านไหนก็เลือกซื้อได้ตามชอบใจเลยจ้ะ

ออกจาก หมู่บ้านเบญจรงค์ ดอนไก่ดี ตั้งใจว่าจะแวะเก็บภาพการทำนาเกลือระหว่างทาง (ถ้ามี) แต่มันดันไม่มี เพราะเขาเพิ่งปล่อยน้ำเข้านา เราเลยต้องผ่านเลยไปจุดต่อไป ตลาดแม่กลอง แต่พวกเราเรียก ตลาดร่มหุบ เราจะมาทานข้าวเที่ยงที่นี่กันด้วย เพื่อที่จะรอถ่ายภาพรถไฟเข้าสถานีแม่กลอง และไหว้พระขอพร หลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทรวรวิหาร กัน แต่เราต้องหาที่จอดรถให้ได้ก่อน เพราะว่าเดี๋ยวนี้เขาไม่ให้รถบัสไปจอดที่ลานจอดรถวัดบ้านแหลมแล้ว ในวันเสาร์-อาทิตย์ จะให้ไปจอดที่ศาลากลางจังหวัด ด้วยเหตุว่า นักท่องเที่ยวเยอะมากกกกกกกก…. กอไก่ล้านตัวเลย เดี๋ยวจะมาบอกว่าเยอะแค่ไหน ตอนนี้เราต้องรีบไปหาอะไรทานกันก่อน มาตลาดแม่กลอง ของกินขึ้นชื่อที่ห้ามพลาด ก๊วยจั๊บเจ้เปิ้ล หรือก๊วยยจั๊บ PP เป็นของอร่อยในราคาประหยัด ขายดีมาก เที่ยงกว่าๆ ของก็หมด แถมต้องไปต่อคิวแย่งเก้าอี้เหมือนกับเล่นเก้าอี้ดนตรี คิดดูเถิดว่าจะขายดีแค่ไหน ทานก๊วยจั๊บกันคนละชามสองชาม ชามหนึ่งเครื่องแน่นมากใส่ไข่ครึ่งใบราคาแค่ 14 บาท ทานกันเรียบร้อย หาที่พักทานน้ำต่อดีกว่า 555… ยังไม่ได้ออกไปถ่ายภาพสักที่

ภาพประจำทริป รางวัลชมเชย  ภาพถ่ายโดย : ธวัชชัย ศิริธนพรพงษ์

ภาพประจำทริป รางวัลที่ 3  ภาพถ่ายโดย : สมชาย สงวนกชกร

นั่งเบรกทานน้ำ สังเกตนักท่องเที่ยวว่าเดี๋ยวนี้เยอะมาก ทั้งนักท่องเที่ยวชาวจีน และ ชาติอื่นๆ จนตลาดแม่กลองการค้าขายเฟื้องฟูมาก จากตลาดสดธรรมดากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เรียกเม็ดเงินให้กับพื้นที่ไม่น้อยที่เดียว เพราะความ Amazing ของที่มาของตลาดร่มหุบที่ต้องหุบร่ม ทุกครั้งที่รถจะเข้าสถานีจะมีการหุบร่ม เพราะรถไฟวิ่งผ่านตลาด จะเข้าออกประมาณ 7 เที่ยว แต่ช่วงที่หุบร่มจะมี รอบ 8.30 น. 9.00 น. 11.10 น.11.30 น. และ รอบ 14.30 น. ซึ่งถ้าใครอยากเก็บภาพต้องไปให้ถูกช่วงเวลา ยิ่งตอนนี้ตลาดสดมีการปรับเปลี่ยนเป็นร้านกาแฟ และจัดพื้นที่เพื่อให้ลูกค้าได้ชมตอนรถไฟเข้าออกสถานี และถ่ายภาพกันอย่างใกล้ชิด พนักงานขับรถไฟ เป็นเหมือนดาราเลยงานนี้ มีการจอดทักถ่ายแฟนคลับตลอดเส้นทางก่อนเข้าสถานี เป็นตลาดหนึ่งเดียวที่ที่ดังไกลไปทั่วโลกจนนักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัสของจริง ช่างภาพเองก็ท้าทายความสามรถในการหามุมมาก เพราะเราจะเห็นแต่นักท่องเที่ยวแน่นไปหมด แถมยังต้องคอยหลบรถไฟอีก ทริปนี้เรารอรถไฟรอบบ่ายสองโมงครึ่ง พอรถไฟมาถึงเจ้าหน้าที่ขับรถไฟก็ออกมาทักท้าย เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวกล้องหลายร้อยตัวหันไปจับจองกับรถไฟที่กำลังจะผ่านพวกเราไป อย่างกับดาราดังที่โดนช่างภาพรุมถ่ายเลย 555…. ถ่ายรถไฟๆ กันไปแล้ว เราไม่ได้รอช่วงที่รถไฟออกจากสถานีรอบบ่าย 3 โมง เพราะเรายังมีโปรแกรมที่เราต้องเดินทางไปต่อ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด

อาสนวิหารแม่พระบังเกิด โบสถ์คริสต์เก่าแก่ ประจำจังหวัด สมุทรสงคราม เป็นโบสถ์คริสต์อายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ต.บางนกแขวก อ.บางคนที ตัววิหารเป็นศิลปะแบบโกธิคที่สร้างด้วยอิฐเผา มียอดแหลมของอาคารพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของสถาปัตยกรรม อาสนวิหารแม่พระบังเกิด เราเดินทางมาถึงโบสถ์คริสต์ ช่วงบ่ายสามกว่าๆ ทริปนี้พิเศษ เพราะเราได้เจ้าบ้านอย่าง ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม ที่ดูแลพื้นที่ จังหวัดสมุทรสาคร และสมุทรสงคราม มาให้ต้อนรับคณะ  CAMERART  และที่พิเศษที่สุด วันนี้ทางสำนักงาน ททท.สุมทรสงคราม จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเย็นสมาชิกผู้ร่วมทริปทุกคน Wow! Wow!  เนี่ยแหละที่ eyejung บอกว่าความพิเศษของทริปนี้ ใครไม่ได้มาถือว่าพลาดอย่างแรง

ภาพประจำทริป รางวัลชมเชย  ภาพถ่ายโดย : วิชญลัญฉน์ อยู่เรือนงาม

มาถึง อาสนวิหารแม่พระบังเกิด ขอถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกกับเจ้าบ้านอย่าง ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม กันก่อน และถ่ายภาพรวมกับ Banner ผู้สนับสนุนกิจกรรมประกวดภาพประจำทริป CAMERART ซึ่งปีนี้มีการปรับเปลี่ยนผู้สนับสนุนบางเล็กน้อย โดยปีนี้ทาง SONY จะเป็นผู้สนับสนุนรางวัลใหญ่ประจำทริป เราจะเริ่ม…เก็บคะแนนกันตั้งแต่ทริปนี้เลย…นะคะ แล้วไปร่วมลุ้นกันว่าปีนี้ใครจะได้รางวัลใหญ่ไปครอบครอง  ถ่ายภาพหมู่แจกรางวัลประกวดเสร็จ แยกย้ายหามุมถ่ายภาพ ทริปนี้เราได้ น้องเกรส เด็กน้อยน่ารักที่ชอบถ่ายภาพมากับ คุณพิษณุพงศ์ และคุณแม่ เป็นครอบครัวนักถ่ายภาพ ที่เดินทางมาจากพัทยาเลย พอ เจ้าอั๋น เห็น น้องเกรส ก็เดินมาหาอาจารย์นพ บอกว่าเหมือนอั๋นตอนเด็กๆ ไหม 555…รำลึกความหลังกันไป

จากอาสนวิหารแม่พระบังเกิด ได้เวลามาจุดสุดท้ายแล้ว คือ ตลาดน้ำอัมพวา ที่ปัจจุบันเปิดขายทุกวันแล้วนะ  เพราะนักท่องเที่ยวเยอะมาก จุดนี้เราจะมาถ่ายแสงเย็นกัน เรื่องแรกที่ต้องแจ้งคือว่าอย่าทานอะไรกันเยอะนะ เพราะเดี๋ยวทานข้าวเย็นที่ ร้านน้องอุ้ม ไม่ได้ หลายคนถึงกับบ่นให้มาเดินตลาด แต่ห้ามซื้อของ ทรมานจิตใจกันจริงๆ อีกเรืองคือถ่ายแสงเย็น จุดหมายที่ eyejung แจ้งไว้คือสะพานข้ามคลองอัมพวา เป็นสะพานที่สองตรง ฐณิชาฌ์ รีสอร์ท พอดี แต่มุมให้ยืนน้อยมาก เพราะมีป้ายไวนิวขนาดใหญ่ติดอยู่กลางสะพาน งานนี้คณะ CAMERART ก็ต้องแปลงร่างเป็นนักกายกรรมกันไปด้วย เพราะพื้นที่จำกัด ต้องซ้อน 2 ซ้อน 3  ปีนขึ้นระดับ หนึ่งระระดับสองของราวสะพาน  จนนักท่องเที่ยวอื่นๆ งงว่าพวกเราถ่ายอะไรกันถึงต้องพยามกันขนาดนี้ เกิดเป็นต่างชาติมุ่ง และมาร่วมจอยถ่ายภาพ…พระอาทิตย์ตกคลองอัมพวา…ไปกับพวกเราด้วย กว่าจะถ่ายพระอาทิตย์ตกสำเร็จถึงขนาดที่เหน็บกินกันไปหลายรอบ ภารกิจถ่ายภาพพระอาทิตย์ตก ได้เวลาเดินทางไปทานข้าวกันแล้ว  ที่ร้านน้องอุ้ม อยู่ใกล้ตลาดอัมพวา ที่ทาง ททท.สำนักงาน สมุทรสงครามจองให้พวกเราถึง 10 โต๊ะ เรียกว่างานนี้ปิดร้านอาหารเขาไปเลย อาหารจัดเต็ม อิ่มอร่อยกับอาหารแล้วตบท้ายด้วยส้มโอขาวใหญ่ที่เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของอัมพวา ด้วยความอร่อย eyejung เผลอแป๊บเดี๋ยว โดน คุณชั้ย ที่นั่งอยู่โต๊ะตรงข้ามตบเอาไปทั้งจาน กลับมาถึงใครเอาส้มโอฉันไปปปปป 555… ก็ของเค้าอร่อยจริงๆ จนหลายคนขากลับต้องขอซื้อกลับบ้านด้วย อิ่มอร่อยกันเรียบร้อยได้เวลาต้องเดินทางกลับกันแล้ว Bye..eyejung

ภาพประจำทริป รางวัลชมเชย  ภาพถ่ายโดย : นิพนธ์ เกตุจรัส

ขอขอบบคุณ 

ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม

ท่านเจ้าอาวาส อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก

หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี

คุณอุไร แตงเอี่ยม  08-1861-4626  ประธานกลุ่มหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี

คุณประภาศรี พงษ์เมธา  08-1995-9196  เลขานุการกลุ่มหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี