เรื่อง+ภาพ : นพดล อาชาสันติสุข

สำหรับคนที่ใช้กล้อง D-SLR และกล้อง Mirrorless ที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ขนาด APS-C ปัญหาหนึ่งที่หงุดหงิดรำคาญใจก็คือ การหาเลนส์มุมกว้างมากๆ มาใช้งาน แน่นอนว่าตัวคูณขนาดเลนส์ 1.5 หรือ 1.6 ทำให้เลนส์ที่ใช้งานอยู่มีมุมแคบไปถนัดใจ อย่างเช่นถ้าใช้เลนส์ขนาด 18 มม. ที่มีมาให้ใช้ เมื่อคูณด้วย 1.5 ก็จะกลายเป็นเลนส์ที่มีมุมภาพเทียบเท่ากับเลนส์ขนาด 27 มม. ไปทันที กว้างไม่สะใจสำหรับความต้องการใช้งานไปทันที

แต่เมื่ออยากจะหาเลนส์มุมกว้างๆ ที่เทียบเท่ากับมุม 18 มม. จริงๆ ราคาของเลนส์ค่ายก็สูงจนต้องคิดหนัก วันนี้มีเลนส์มาให้พิจารณาใช้งานแล้วจ้า…ด้วยงบประมาณไม่ถึงสองหมื่น 

SAMYANG 12 mm. F2.0 NCS CS คือ เลนส์ที่เราจะคุยกันในวันนี้ สำหรับเลนส์รุ่นนี้ถ้าจะว่าไปแล้วก็ออกมาสู่ท้องตลาดนานพอควรทีเดียว แต่ต้องนับว่าเป็นเลนส์ที่น่าสนใจใช้งานด้วยเหตุผลใหญ่ๆ 2 ประการ หนึ่งก็คือเป็นเลนส์ที่ ราคาพอจับต้องได้ ถูกวางตลาดในราคาเพียง 16,900.00 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาหรับเลนส์มุมกว้างมากๆ ที่จับต้องได้ทีเดียว อีกประการหนึ่งที่คนถ่ายรูปคงต้องคิดก็คือ คุณภาพมัน OK หรือเปล่าเพื่อให้กระจ่างกับเรื่องนี้ ผมจึงได้ทำการทดสอบเลนส์รุ่นนี้นำมาฝากแล้วครับ

สัมผัสแรกกับ SAMYANG 12 mm. F2.0 NCS CS

ผมได้รับเลนส์ SAMYANG 12 mm. F2.0 NCS CS จาก Camera Maker Co.,Ltd. ซึ่งเป็นตัวแทนโดยตรงของเลนส์ SAMYANG จากประเทศเกาหลี สัมผัสแรกกับเลนส์ SAMYANG 12 mm. F2.0 คือ ขนาด และน้ำหนักที่เล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ตัวเลนส์มาพร้อมกับ Hood แบบกลีบดอกไม้ คงจะมีคำถามว่า แล้วเลนส์ทำจากที่ไหน 

SAMYANG 12 mm. F2.0 เป็นเลนส์เชื้อชาติเกาหลี สัญชาติเกาหลี ทำในเกาหลีครับ วันนี้เราคงต้องยอมรับละครับว่า เกาหลี ก็เป็นหนึ่งในเจ้าเทคโนโลยีที่ไม่แพ้ใครเหมือนกัน ตัวเลนส์ SAMYANG 12 mm. F2.0 ยอมรับครับว่า ทำมาเรียบร้อยดีมากทีเดียว เม้าท์เลนส์แบบโลหะ งานลื่นมือไม่มีคมเลยทีเดียวแหวนปรับรูรับแสงอยู่ที่ตัวเลนส์ ด้านติดกับกล้อง ส่วนแหวนปรับระยะโฟกัสอยู่ส่วนหน้าคั่นด้วยแหวนที่เป็นเฟอร์นิเจอร์สีแดงดูดีมีเกรด 

วงแหวนปรับรูรับแสง ลื่นไหลดี การปรับรูรับแสงปรับได้ครั้งละ 1/2 สต็อป ยกเว้นที่ขนาดรูรับแสงที่ f16 ไป F22 จะปรับได้ครั้งเดียว 1 สต็อป ส่วนแหวนปรับระยะชัดที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมด้วยสเกลระยะชัดที่ดูได้ทั้งแบบ เป็นเมตร และฟุต มีระยะใกล้สุดที่ 20 ซม. หรือ 0.66 ฟุต ถึง ระยะอนันต์

โครงสร้างของชิ้นเลนส์ เป็นระบบ Internal focus หน้าเลนส์ไม่หมุนตามการโฟกัส นั่นทำให้สะดวกสำหรับการใช้ฟิลเตอร์ CP-L มี 12 ชิ้นเลนส์ แบ่งเป็น 10 กลุ่ม มี 3 ชิ้นเลนส์ ED ที่ช่วยลดความคลาดสี และ 2 ชิ้นเลนส์ที่เป็น Aspherical สำหรับแก้ความคลาดทรงกลม ใช้ระบบ Coating แบบ Nano Coating System (NCS) 

ทดสอบสมรรถนะของเลนส์

การทดสอบสมรรถนะของเลนส์ SAMYANG 12 mm. F2.0 จะทดสอบในเรื่องของความคมชัดบริเวณกลางภาพของเลนส์ในช่วงรูรับแสงต่างๆ ตั้งแต่ขนาดรูรับแสงที่ F2-F22 ทดสอบความคมชัดทั่วทั้งภาพ ตั้งแต่ f2-f22 ถ่ายภาพทดสอบการใช้งานจริง เพื่อดูการเก็บรายละเอียดและสีสัน และพิจารณาความคลาดสี

จากภาพการถ่ายทดสอบสิ่งแรกที่พิจารณาก็คือ ความเพี้ยนของรูปทรง จัดเป็นแบบป่องกลาง (Mid Barrel Lens) ในเรื่องในเรื่องความคมชัดพิจารณาที่กลางภาพ ด้วยการถ่ายภาพที่ขนาดรูรับแสงต่างๆ พบว่า ช่วงความคมชัดที่ดีที่สุดของเลนส์รุ่นนี้อยู่ที่ F2-F11 ความคมชัดกลางภาพจะลดลง ที่ F16 และ F22

สำหรับความคมชัดในแนวระนาบทั่วทั้งภาพ พบว่า ความคมชัดตั้งแต่ F4 ลงมาถึง F2 ความคมชัดที่ขอบภาพลดลงตามลำดับ ซึ่งจะเป็นลักษณะเดียวกับที่ F16 และ F22 ที่ความคมชัดลดลง ตามลำดับเช่นกัน ความคมชัดทั่วทั้งระนาบที่ดีอยู่ที่ F 5.6 ถึง F11

ในเรื่องของการทดสอบสมรรถนะของเลนส์รุ่นนี้ เราคงต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเลนส์ขนาด 12 มม. กันซักหน่อย เนื่องจากเลนส์ขนาด 12 มม. จัดอยู่ในกลุ่มของเลนส์ซุปเปอร์ Wide angle ซึ่งเป็นเลนส์ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ Landscape ที่ต้องการมุมกว้างมากๆ หรือ การถ่ายภาพทางสถาปัตยกรรม แต่การพัฒนาเลนส์ให้มีมุมกว้างๆ อุปสรรคของการออกแบบเลนส์ที่สำคัญก็คือ ปัญหาความคมชัดทั่วทั้งภาพคือเรื่องแรก ปัญหาต่อมาก็คือเรื่องความคลาดสีที่จะเกิดขึ้น และอีกปัญหาหนึ่งก็คือ ความผิดเพี้ยนของรูปทรง ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันปัญหาเหล่านี้ สามารถทำได้ตั้งแต่ แก้ได้ดีที่สุด นั่นหมายความว่า ราคาเลนส์ก็ต้องดีที่สุด ตั้งแต่ระดับแสนถึงหลายแสน ลดปัญหาเหล่านี้ให้เหลือน้อยที่สุด นั่นหมายความว่าราคาเลนส์ก็จะวิ่งไปที่ระดับราคา หลายหมื่นบาทไปจนถึงแสนบาท นั่นทำให้เลนส์ Super Wide angle จึงมีราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการทำเลนส์ให้ได้คุณภาพที่ดีแต่มีระดับราคาที่ท่านสามารถซื้อใช้งานได้สะดวกจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว

ดังนั้นการที่เลนส์ SAMYANG 12 mm. F2.0 สามารถพัฒนาให้มีสมรรถนะในเรื่องความคมชัดได้ถึงระดับนี้ เมื่อเทียบกับราคาแล้ว ต้องเรียนว่าคุ้มแสนคุ้มครับ เมื่อเทียบกับแต่ก่อนถ้าต้องการได้เลนส์ที่มีความคมชัดขนาดนี้ก็ต้องใช้หลายหมื่นเหมือนกัน

ทดสอบใช้งานถ่ายภาพ

ผมได้ลองใช้เลนส์ SAMYANG 12 mm. F2.0 ร่วมกับกล้อง Sony A6300 ทำการถ่ายภาพในรูปแบบต่างๆ ตั้งใจไว้เผื่อเป็นแนวทางให้กับท่านผู้อ่านไปในเวลาเดียวกัน คือ ถ่ายภาพสถาปัตยกรรม ถ่ายภาพแบบมุมกว้างถ่ายภาพ การตกแต่งภายใน และที่ขาดไม่ได้ ลองเดินถ่ายภาพทั่วๆ ไป อาจจะไม่ประจวบเหมาะ ก็คือ ในช่วงเวลาที่ทำการลองถ่ายภาพนั้น สภาพดินฟ้าอากาศอุดมไปด้วยเมฆฝนซึ่งหลายคนคงจะคิดว่ามันไม่เหมาะกับการถ่ายภาพ แต่สำหรับผมแล้ว ถือว่าเป็นโอกาส เพราะการทดสอบในสภาพแสงที่ไม่อำนวยให้เสียเลย  ถ้าได้ภาพที่น่าพอใจ การที่สภาพแสงดี  ภาพที่ได้ก็จะดียิ่งขึ้น นั่นคือการที่สามารถรีดเอาสมรรถนะสูงสุดของเลนส์ออกมาได้เมื่อใช้งานจริง

เนื่องจากเลนส์รุ่นนี้เป็นเลนส์ Manual focus ดังนั้นการใช้งานกับกล้อง จึงทำงานได้ไม่เต็มทุกระบบการถ่ายภาพ การใช้เลนส์รุ่นนี้กับกล้องดิจิตอล ทำงานได้ดี กับระบบถ่ายภาพ 2 ระบบ คือ

  1. ปรับตั้งระบบถ่ายภาพแบบ Manual ซึ่งต้องปรับเลือกค่ารูรับแสงเอง วัดแสงเอง ปรับตั้งความไวชัตเตอร์เอง
  2. ปรับตั้งระบบถ่ายภาพแบบ Aperture Priority AE คือ ระบบ [A] หรือ [Av] ซึ่งเป็นระบบถ่ายภาพอัตโนมัติ ที่ต้องตั้งค่ารูรับแสงที่ตัวเลนส์ จากนั้นกล้องจะวัดแสง และตั้งความไวชัตเตอร์ไห้โดยอัตโนมัติ

จากภาพถ่ายที่ได้ทำการเดินทดลองถ่ายภาพในสถานะต่างๆ ทั้งที่มีแดด ไม่มีแดด ในร่ม และหลากหลายรายการ จากภาพที่ได้พบว่า ภาพที่ได้ มีสีสันสดใส ให้สีสันตามจริงเป็นธรรมชาติดีมาก ความคมชัดของเลนส์และการเก็บรายละเอียดของภาพจากการใช้งานจริง เลนส์รุ่นนี้ให้ความคมชัดและเก็บรายละเอียดในภาพได้ดีมากทีเดียว 

ในเรื่องความคลาดสีในภาพถ่าย พบว่ามีอาการคลาดสีที่บริเวณขอบภาพ ซึ่งผมถือว่าดีกว่าที่คิดมาก สำหรับเลนส์ที่มีราคาระดับนี้ เพราะเท่าที่เคยเจอ มีอาการคลาดสีหนักกว่านี้มาก 

อีกเรื่องหนึ่งที่นักถ่ายภาพมักชอบถามเสมอว่า แล้วเมื่อถ่ายภาพย้อนแสง อาการแฟลร์เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับเลนส์ SAMYANG 12 mm. F2.0 ผมได้ทดลองถ่ายภาพย้อนแสงดูในลักษณะต่างๆ พบว่า ในการถ่ายภาพย้อนแสงด้วยเลนส์ SAMYANG 12 mm F2.0 ถ้าตั้งที่ขนาดรูรับแสงกว้าง ขนาดรูรับแสงที่ F2-F4 จะมีอาการฟุ้งเหมือนกัน ที่ F4 อาการฟุ้งจะน้อยกว่า F2-F2.8 แต่ถ้าถ่ายภาพที่ F5.6 ขึ้นไปอาการฟุ้งจะลดลงเป็นแฟลร์ขนาดหกเหลี่ยม ตามจำนวนไดอาแฟรม ขนาดของแฟลร์จะลดลงเมื่อใช้รูรับแสงที่แคบขึ้น

บทสรุป

ในการใช้เลนส์มุมกว้าง แบบกว้างมากๆ พวก ซุปเปอร์ไวด์แองเกิล สิ่งที่นักถ่ายภาพต้องผจญอย่างหลีกหนีไม่พ้นจนเป็นคำถามประจำว่า ชัดถึงขอบภาพไหม ผิดเพี้ยนรูปทรงไหม คลาดสีมากไหม แฟลร์เยอะไหม…ผมขอเรียนว่า ปัญหาเหล่านี้ เจอะเจอกันอยู่ประจำแล้วครับ ไม่มีอะไรน่าวิตก ถ้าคุณต้องซื้อเลนส์ในราคาหลายๆ หมื่นบาท แต่ใช่ว่า เมื่อคุณซื้อเลนส์ราคาแพงแล้ว ปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้หมดไปจริงๆ ปัญหาอาจจะเหลืออยู่น้อยลงไปจนน้อยลงไปมาก ขึ้นกับการออกแบบ และราคาของเลนส์แต่ละตัว

สำหรับ SAMYANG 12 mm. F2.0 ด้วยราคาดังกล่าว จากการที่ได้ลองใช้งาน ผมว่าคุ้มค่าครับสำหรับการมีเลนส์ซุปเปอร์ไวด์ ไว้ใช้งานด้วย ความคมชัดของเลนส์ ความสามารถเก็บรายละเอียดได้ของเลนส์ สีสันที่ได้จากเลนส์ ผมถือว่าคุ้มราคาครับ ที่สำคัญก็คือ เลนส์แทบทุกรุ่นทุกตัว ก็มีจุดอ่อนของตัวเลนส์เอง ที่ทางวิศวกรรมก็พยายามออกแบบมาให้ใช้งานได้ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุด แต่ก็อาจจะมีบางสิ่งที่ไม่อาจตอบสนองได้ด้วยระดับราคาที่ถูกจำกัด การใช้เลนส์ให้เต็มสมรรถนะจึงควรต้องรู้ว่าเลนส์รุ่นนี้ช่วงใช้งานที่ดีที่สุดอยู่ที่ไหน

สำหรับเลนส์ SAMYANG 12 mm. F2.0 รุ่นนี้ ช่วงที่เหมาะสำหรับการใช้งานและให้คุณภาพของรูปถ่ายที่ดีที่สุด ถ้าท่านต้องการความคมชัดทั่วทั้งภาพดี ขนาดของรูรับแสงที่ใช้ ควรอยู่ที่ขนาดของ F5.6-11 แต่ถ้าท่านคิดว่าต้องการความชัดลึกขนาด F16-22 ท่านก็จะพบว่าความคมชัดในภาพอาจจะลดลงการใช้ถ่ายภาพที่ต้องการความชัดลึก ที่ F16 สำหรับเลนส์รุ่นนี้ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ในเรื่องของการถ่ายภาพย้อนแสง ควรถ่ายภาพที่ F5.6 ขึ้นครับ เพื่อลดการฟุ้งของแสง 

ถ้าคุณกำลังหาเลนส์ Super Wide Angle ซักตัวไว้ใช้งาน แต่คิดว่าไม่อยากจ่ายเงินหลายหมื่นบาท SAMYANG 12 mm. F2.0 เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยราคาโดนใจ คุณภาพใช้งานได้ดีเกินราคาครับ

สิ่งหนึ่งฝากท้าย สำหรับท่านที่ชมชอบการถ่ายดาว ถ่ายทางช้างเผือก ซึ่งจำเป็นต้องใช้เลนส์มุมกว้างมากๆ แม้จะยังไม่ได้ลองกับเลนส์รุ่นนี้ แต่จากที่ได้ลองใช้ถ่ายภาพมาระยะหนึ่ง ผมมั่นใจว่า เลนส์ Super Wide angle รุ่นนี้ จะเป็นเลนส์ที่เหมาะกับการถ่ายภาพดาวได้อีกรุ่นหนึ่งครับ