เรื่อง+ภาพ : ศุภฤกษ์ นฤเบศร์ไกรสีห์

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 255/2018 December

ฟูจิฟิล์มข้ามกล้อง Full Frame ไปเพื่อทำกล้องที่เหนือกว่าคืออนุกรม GFX ตัวแรกคือ FUJIFILM GFX 50S เน้นการใช้งานระดับ Commercial โดยเฉพาะ และร่วมกับ Adobe ในการพัฒนาโปรแกรม Tethering ที่ใช้ในการถ่ายภาพเข้าคอมพิวเตอร์โดยตรง  เป็นการเริ่มต้นตลาด Medium Format Mirrorless Camera อย่างสมบูรณ์ เกือบ 2 ปี ให้หลัง FUJIFILM ออกกล้อง FUJIFILM GFX รุ่นที่ 2 คือ FUJIFILM GFX 50R โดยใช้เซ็นเซอร์ ระบบประมวลผล และระบบการทำงานจาก FUJIFILM GFX 50S อยู่ในรูปทรงของกล้องแบบ Rangefinder โดยมีน้ำหนักเบาลงเหลือเพียง 775 กรัม เมื่อรวมแบตเตอรี่และการ์ดเก็บข้อมูลซึ่งน้ำหนักเบากว่ากล้อง DLSR Full Frame หลายๆ ตัวในตลาดทั้งๆ ที่เซ็นเซอร์ใหญ่กว่ามาก ส่วนตัวกล้องก็บางลงเมื่อเทียบกับรุ่น GFX 50S รวมทั้งราคาลดลงไปมากเกือบครึ่ง โดยตัวกล้องยังเป็นโลหะแมกนีเซียมอัลลอยด์ และมีซีลป้องกันความชื้นและฝุ่นละอองในระดับโปร คุณสมบัติการทำงานต่างๆ ไม่ได้ด้อยไปกว่าตัว 50S เลย เรียกว่า ดีและถูก แถมยังหล่อเหลาดูเป็นมิตรต่อผู้ใช้มากขึ้นด้วย และยังได้โปรแกรม Capture One Pro มาร่วมใช้งาน รองรับการ Tethering และการแปลงไฟล์ RAW ซึ่งเป็น Workflow หลักที่มืออาชีพชอบใช้งานด้วย  

FUJIFILM GFX 50R จึงเป็นกล้อง Medium Format ระดับโปรที่ราคาจับต้องได้มากขึ้น (ถูกกว่ากล้อง Full Frame รุ่นบน) ให้คุณภาพไฟล์ที่ยอดเยี่ยมกว่ากล้อง Full Frame ในทุกด้าน ใช้งานได้คล่องตัวกว่ากล้อง Medium Format อื่นๆ สามารถใช้งานได้ทั้งแบบมืออาชีพ ถ่ายโฆษณา อาหาร สินค้า ทิวทัศน์ ฯลฯ ใช้ถ่ายภาพท่องเที่ยว รวมทั้งถ่ายภาพในแนวสตรีทได้ดีเยี่ยมอีกด้วย

คุณสมบัติของ FUJIFILM GFX 50R

  1. ทรงกล้องเป็นแบบ Rangefinder ดูคลาสสิค เหมาะกับการเดินถ่ายท่องเที่ยวและใช้งานไลพ์สไตล์ รวมไปถึงถ่ายภาพในแนว Commercial ด้วย
  2. ปุ่มหมุนและการควบคุมกล้องเป็นสไตล์กล้องฟิล์ม สั่งงานได้ง่าย ถนัดมือ และให้ความคลาสสิคแบบกล้องฟิล์ม
  3. เป็นกล้องระดับมืออาชีพที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ หรือ Medium Format Sensor Camera เซ็นเซอร์มีขนาด 43.8 x 32.9 มิลลิเมตร ใหญ่กว่า Full Frame ประมาณ 1.7 เท่า ทำให้ได้ภาพที่ดีกว่าในทุกๆ ด้าน และมีระบบทำความสะอาดเซ็นเซอร์แบบ Ultrasonic
  4. พื้นที่รับเซลแสงมีขนาดใหญ่มาก ทำให้ภาพมีรายละเอียดสูงมากกว่าที่จำนวนพิกเซลเท่ากัน ความไวแสงสูง และมีสัญญาณรบกวนต่ำ ได้ภาพมีช่วงการรับแสงกว้างถึง 14 ­Stop (ช่วงใช้งานได้จริง) เมื่อดึง Dynamic range จะไม่เกิดจ้ำสีหรือแถบสีขึ้นในส่วนดำเหมาะกับการถ่ายภาพที่ต้องการดึงรายละเอียดส่วนมืดสว่างมากกว่า
  5. เลนส์จะมีทางยาวโฟกัสสูงกว่า Full Frame เมื่อเทียบขนาดภาพที่เท่ากัน ทำให้ได้มิติภาพที่สวยกว่า เช่น เลนส์ 85 มิลลิเมตรของ Full Frame จะเทียบเท่ากับ 110 มม. ของ GFX ก็จะทำให้ภาพจาก GFX ได้มิติภาพแบบ 110 มม. แต่ขนาดภาพเป็น 85 มม. มิติภาพจะดูสวยกว่า
  6. ให้ภาพความละเอียด 51.2 ล้านพิกเซล สามารถขยายภาพระดับ 40 นิ้ว โดยพิกเซลไม่แตกและยังให้ภาพรายละเอียดสูง สีสันเป็นธรรมชาติมากกว่า
  7. ระบบประมวลผลใช้ X-Processor Pro ทำงานเร็ว และทรงพลังสำหรับความละเอียดระดับ 50 ล้านพิกเซล ทำให้ภาพมี Noise ต่ำและได้สีสันสดใส
  8. ไฟล์ RAW มีระดับเฉดสี 14 bit/color ให้ความลึกสีมากถึง 16,384 ระดับ หรือ 4.4 ล้านล้านเฉดสี
  9. สามารถถ่ายภาพได้ทั้ง RAW, TIFF และ JPG
  10. มีระบบสีภาพแบบฟิล์มถ่ายภาพ โดยเฉพาะโหมด Classic chrome ที่เหมาะกับการถ่ายภาพในแนว Document โหมด Velvia สำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์หรือภาพที่ต้องการสีจัดจ้าน NS และ NH สำหรับการถ่ายภาพที่เน้นสีผิวคนนุ่มนวลเป็นพิเศษ
  11. สามารถคุมสีและโทนของภาพได้เยอะมาก ทั้งส่วนสว่าง Hilight ส่วนมืด Shadow ความจัดจ้านของสี Saturation ความคมชัด Sharpness การลดสัญญาณรบกวน Noise Reduction รวมถึงเฉดสีเข้มด้วย Color Chrome Effect หรือเพิ่มเกรนในภาพด้วย Grain
  12. มีโหมด 35 mm. สามารถถ่ายภาพที่ขนาดภาพ Full Frame ที่ความละเอียด 30 ล้านพิกเซล ซึ่งจะได้มุมการรับภาพเทียบเท่ากับทางยาวโฟกัสของเลนส์ที่ใช้ เช่น เลนส์ 110 เมื่อใช้โหมดปกติจะเทียบเท่าทางยาวโฟกัส 85 มม. (คูณ 0.79) แต่เมื่อใช้โหมด 35 มม. ก็จะมีมุมการรับภาพเท่ากันเลนส์ 110 มม. ตามขนาดเลนส์ปกติ
  13. ตัวกล้องเป็นแมกนีเซียมอัลลอยด์ เน้นความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา แข็งแกร่ง ระบายความร้อนได้เร็ว รองรับการใช้งานหนักระดับมืออาชีพ
  14. ตัวกล้องมีซีลป้องกันความชื้นและฝุ่นละออง สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมโหดๆ ได้อย่างไม่เป็นปัญหา ทนต่ออุณหภูมิได้ต่ำถึง -10 องศาเซลเซียส สามารถใช้งานทั้งกลางทะเลทรายริมทะเล กลางฝนปรอยๆ ไปจนถึงท่ามกลางหิมะตก
  15. ช่องมองภาพอยู่ด้านซ้ายแบบกล้อง Rangefinder แสดงภาพผ่านจอ EVF แบบ OLED ขนาด 0.5 นิ้ว 3.69 ล้านพิกเซล อัตราขยาย 0.77 เท่า ความสว่าง 800 cd/m2 แสดงภาพ 100% ให้ภาพเต็มตาและมีความชัดเจนสูงมาก
  16. สามารถปรับสายตาสำหรับคนสายตาสั้นหรือสายตายาวได้ +2 ถึง -4 diopter และมองภาพได้ห่าง 23 มิลลิเมตรสำหรับคนใส่แว่นตา
  17. จอ LCD หลังกล้องมีขนาดใหญ่ถึง 3.2 นิ้ว ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล ให้ภาพสว่าง ชัดเจน
  18. สามารถพลิกจอลงได้ 45 องศา และพลิกขึ้นได้ 90 องศา สำหรับการถ่ายภาพมุมสูงและมุมต่ำ โดยเฉพาะในการถ่ายภาพแนว Street และ Landscape
  19. จอภาพเป็น Touchscreen และ Touchpad สามารถสั่งโฟกัส ถ่ายภาพ ขยายภาพ เลือกจุดโฟกัส ปรับค่าการทำงานของกล้อง ฯลฯ ผ่าน Touchscreen ได้
  20. ปุ่มการทำงานต่างๆ บนตัวกล้องและ Touchscreen สามารถตั้งค่าการทำงานได้ เพื่อให้เข้ากับความถนัดของผู้ใช้งานแทบทั้งหมด
  1. ใช้การ์ดเก็บข้อมูลแบบ SDXC USHII 2 ช่อง แยกเก็บได้ทั้ง RAW JPG หรือจะให้เก็บแบบ Back-up หรือเก็บทีละการ์ดก็ได้
  2. ใช้เลนส์รุ่นใหม่ FUJINON G Mount ที่มีคุณภาพสูงมากเป็นพิเศษ ให้กำลังแยกขยายสูงมากรองรับความละเอียดระดับ 100 ล้านพิกเซล โฟกัสเร็ว และยังให้ฉากหลังที่สวยงามแบบเลนส์คลาสสิคด้วย
  3. ใช้งานได้ในทุกสภาพแสง ตั้งความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO 100-12800 โดยที่ ISO 100-3200 มี Noise ต่ำมากๆ และที่ ISO สูงมี Noise ต่ำกว่ากล้องทั่วไปมาก
  4. ระบบถ่ายภาพมีให้เลือกใช้งานครบทั้ง M S A และ P สำหรับการใช้งานที่ต้องการควบคุมความเร็วชัตเตอร์และช่องรับแสง หรืองานที่ต้องการความคล่องตัวจากระบบอัตโนมัติ
  5. ระบบวัดแสงมีให้เลือกใช้งานในทุกรูปแบบของแสง ทั้งแบ่งพื้นที่ 256 ส่วนสำหรับการวัดแสงแบบยากๆ ระบบวัดแสงเฉพาะจุดสำหรับการวัดแสงที่ต้องการความแม่นยำเฉพาะตำแหน่งสูงๆ ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพสำหรับการถ่ายภาพที่ไม่ซับซ้อนมาก และระบบวัดแสงเฉลี่ยหนักกลางภาพสำหรับการเน้นแสงบางตำแหน่ง
  6. สเกลวัดแสง +-5 Stop ทำให้การไล่วัดแสงส่วนมืดสว่างทำได้สะดวกมาก โดยเฉพาะการวัดแสงที่ต้องคุม Dynamic range เยอะๆ สามารถชดเชยแสงได้ +-5 stop ด้วยเช่นกัน
  7. ตัวกล้องรองรับการทำงานของระบบกันสั่นที่เลนส์หรือ OIS สำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยและหรือความเร็วชัตเตอร์ต่ำโดยเปิดระบบลดการสั่นไหว
  8. ม่านชัตเตอร์แบบโลหะหน้าระนาบเซ็นเซอร์ ทำให้สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงมากๆ ได้ การควบคุมแสงมีความแม่นยำสูง และสามารถใช้เลนส์อื่นๆ ที่ไม่มีชัตเตอร์ที่เลนส์ได้ รวมทั้งการใช้กับกล้องวิวสำหรับงานโฆษณาและสถาปัตยกรรม
  9. สามารถตั้งเวลาเปิดรับแสงได้นาน 60-1/4000 วินาที เมื่อใช้ชัตเตอร์กลไก และสูง 1/16000 วินาที เมื่อใช้ชัตเตอร์อิเลคทรอนิกส์สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายสภาพแสงได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพดาว
  10. ตัวกล้องระบายความร้อนได้ดีมาก ทำให้ลดการเกิด Hot Pixel ได้ดีเยี่ยมเมื่อเปิดรับแสงเป็นเวลานาน จะมีประโยชน์มากเวลาถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยมากๆ แล้วใช้ชัตเตอร์นานกว่า 30 วินาที
  11. สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ที่ 3 ภาพต่อวินาที
  12. มีระบบ Focus Bracketing โดยการถ่ายภาพหลายๆ ความชัดอัตโนมัติมาทำการ Stack ในโปรแกรมภายหลัง เป็นระบบที่ต้องใช้งานเวลาถ่ายภาพทิวทัศน์ ภาพภายในอาคาร หรือภาพสินค้าที่มีระยะใกล้ไกลมากๆ จนความชัดลึกโดยการหรี่ช่องรับแสงไม่เพียงพอ สามารถให้กล้องถ่ายคร่อมระยะชัดลึกอัตโนมัติต่อเนื่อง ไม่ต้องมาถ่ายทีละภาพให้เสียเวลา
  13. ระบบโฟกัสเป็นแบบ Contrast Detection มีความแม่นยำสูงสุด จุดโฟกัสมากถึง 425 จุด สามารถย้ายจุดโฟกัสไปยังตำแหน่งจุดสนใจซึ่งจะทำให้การโฟกัสมีความแม่นยำมากกว่าการล็อคโฟกัสแล้วปรับตำแหน่งภาพใหม่
  14. ระบบโฟกัสมีทั้งปรับตั้งเอง MF ทีละภาพ AF-S และต่อเนื่อง AF-C ใช้งานได้ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้เป็นอย่างดี
  15. พื้นที่โฟกัสมีให้เลือกทั้งแบบเฉพาะจุด Single Point ที่สามารถปรับขนาดพื้นที่ได้สำหรับการปรับโฟกัสที่ต้องการความแม่นยำสูงสุด แบบโซน Zone ปรับขนาดได้สำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว และแบบพื้นที่กว้าง Wide Area ให้กล้องเลือกพื้นที่ปรับความชัดแบบอัตโนมัติ
  16. มีระบบค้นหาใบหน้า Face Detection และค้นหาตำแหน่งดวงตา Eye Detection เพื่อความแม่นยำและสะดวกในการถ่ายภาพบุคคล
  17. ระบบปรับสมดุลสีของแสงมีทั้งแบบ Preset, Auto และปรับตั้งเอง 3 ค่า โดยตั้งจากสภาพแสงที่ใช้งานจริงจะได้ความแม่นยำของสีสูงสุด
  18. มีระบบ Interval Timer ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ โดยตั้งจำนวนภาพได้ไม่จำกัดสำหรับการทำ Time Lapse VDO ในภายหลัง
  19. รองรับระบบแฟลช High Speed Sync เวลาใช้แฟลชกับแสงแดดจ้าที่ช่องรับแสงกว้างมากๆ จะทำให้ใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงในการลดแสงแฟลชได้
  20. มีระบบ Raw Conversion สามารถแปลงไฟล์ RAW โดยการปรับค่าต่างๆ ของภาพได้ที่ตัวกล้อง พอถ่ายภาพเสร็จหากอยากเปลี่ยนแปลงค่าปรับตั้งก็สามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าจะแสง โหมดสี ฯลฯ โดยกล้องจะแปลงเป็นไฟล์ JPG เพิ่มเข้ามา
  21. สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ต่อเนื่องแม้กล้องจะปิดอยู่ สะดวกมากเวลาต้องการถ่ายภาพไปโอนข้อมูลไปยัง Smart Phone และยังประหยัดแบตเตอรี่เพราะเชื่อมต่อด้วย Bluetooth อีกด้วย
  22. เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์โดยใช้ USB-C ซึ่งไวและแข็งแรงกว่าเดิม มีช่องต่อ HDMI สำหรับการดูภาพหรือถ่าย VDO ออกทาง External Recorder
  23. สามารถถ่ายภาพได้ประมาณ 400 ภาพต่อแบตเตอรี่ 1 ก้อน

เพียงพอต่อการถ่ายภาพใน 1 วัน สำหรับการถ่ายภาพทั่วไป

  1. น้ำหนักตัวกล้อง 690 กรัม 775 กรัม เมื่อรวมแบตเตอรี่และการ์ด เบากว่ากล้อง DSLR รุ่นกลางหรือรุ่น TOP
  2. สามารถใช้งานร่วมกับ Capture One Pro ได้
  3. มีโหมด 35 mm. Format เมื่อใช้โหมดนี้กล้องจะถ่ายภาพโดยใช้พื้นที่เซ็นเซอร์เท่ากับกล้อง Full Frame คือ 24×36 มม. ให้ภาพขนาด 30.5 ล้านพิกเซล

การใช้งานภาคสนาม

FUJIFILM GFX 50R จริงๆ ก็คือการนำเอาระบบการทำงานทั้งระบบประมวลผล เซ็นเซอร์ รวมทั้งเมนูการทำงานต่างๆ ของ FUJIFILM GFX 50S ใส่ไว้ในกล้องทรง Rangefinder ที่ดูเป็นมิตร สวยงาม เล็ก เบาและน่าใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่ากล้องทรง DSLR ที่ดูจริงจังเหมาะกับงาน Commercial ดังนั้น กลุ่มเป้าหมายของ FUJIFILM GFX 50R จึงเป็นทั้งมืออาชีพสาย Commercial มือสมัครเล่นที่ต้องการไฟล์ และมุมภาพที่เหนือกว่ากล้องเซ็นเซอร์เล็กอย่าง Full Frame หรือ APS-C โดยเฉพาะเรื่องมิติภาพที่กล้อง Medium Format จะได้มิติภาพที่เป็นเทเลโฟโต้มากกว่ากล้องเซ็นเซอร์เล็กในขนาดภาพเท่ากัน ส่วนฉากหลังก็จะเบลอมากกว่า ทำให้ได้มิติภาพที่สวยงาม ส่วนรายละเอียดนั้นทั้งความละเอียด 52 ล้านพิกเซลกับขนาดเซลรับแสงที่ใหญ่ ทำให้มี Dynamic range กว้างมากและให้ความคมชัดรายละเอียดสูงกว่ากล้องที่ใช้เซ็นเซอร์เล็กกว่าที่มีจำนวนพิกเซลเท่ากัน อีกทั้งเลนส์ FUJINON ที่ใช้ใน FUJIFILM GFX เป็นเลนส์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเซ็นเซอร์ความละเอียดสูง ทำให้ภาพที่ได้ดีมากทั้งความคมชัด รายละเอียด สีสัน และช่วงการรับแสง

ผมได้ลองเอากล้อง FUJIFILM GFX 50R ไปถ่ายภาพทั้งภาพบุคคล ภาพทิวทัศน์ ภาพที่มีความแตกต่างของแสงสูงมากๆ ที่ต้องการรายละเอียดสูงมากๆ สิ่งแรกที่ทำคือ การทดสอบ Noise ที่ค่าความไวแสงต่างๆ ตั้งแต่ 100-25600 พบว่าที่ ISO ถึง 800 ให้ภาพที่เนียนมากๆ ส่วน 1600-3200 มี Noise ต่ำมาก หากเทียบกับกล้อง Full Frame ระดับ 50 ล้านพิกเซล ด้วยกันแล้วต้องบอกว่า FUJIFILM GFX มี Noise ที่ต่ำกว่ามาก และให้รายละเอียดที่สูงกว่าในจำนวนพิกเซลเท่ากันเลยทีเดียว ส่วน ISO 12800-25600 จะมี Noise อยู่พอควร แต่ยังสามารถใช้งานได้แบบสบายๆ หากไม่ได้ขยายภาพขนาดใหญ่มากหรือมองภาพจากระยะไกล

จากนั้นลองทำการทดสอบค่า Dynamic range โดยการตั้ง ISO ที่ 100 แล้วถ่ายภาพ Over Under กับไฟล์ RAW ทำการปรับแก้โดยใช้ Photoshop พบว่า FUJIFILM GFX 50R สามารถเก็บรายละเอียดส่วนสว่างได้มากถึง +4 stop ส่วนมืดได้มากกว่า -7stop และหากตั้ง ISO 1600 สามารถดึงรายละเอียดส่วนมืดได้มากถึง 5 stop โดยไม่มี Chroma Noise เข้ามารบกวน ทำให้เวลาดึงส่วนเงาไม่เกิดจ้ำหรือแถบสีเข้ามาสร้างปัญหาเลย เวลาที่ถ่ายภาพทิวทัศน์ย้อนแสง ภาพบุคคลที่แสงยากมากๆ เราสามารถดึงแสง ดึงรายละเอียดภาพโดยมีปัญหาตามมาน้อยมากๆ

ในการถ่ายภาพคนในสภาพแสงน้อย ส่วนมากผมใช้แสงจากหน้าต่างโดยไม่ใช้รีเฟกเตอร์หรือแสงช่วย อาศัยช่วงการรับแสงกว้างของกล้องในการดึงรายละเอียดขึ้นมา และใช้ระบบโฟกัสแบบ AF-S เลือกพื้นที่จุดเดียว กับใช้ระบบ Face Detection +Eye Detection ในการโฟกัส ส่วนโหมดสีภาพใช้ Classic chrome หรือ NS ในการคุมสีภาพ และปรับค่า Hilight Shadow ช่วยด้วยในบางภาพ การใช้งานในสภาพแสงน้อยทำได้ดีมาก ผมสามารถใช้ความไวแสงสูงถึง ISO 1600 หรือ 3200 ในการถ่ายภาพคนโดยไม่ต้องกลัวเรื่อง Noise จะมาทำให้ภาพเสียหายเพราะกล้อง FUJIFILM GFX 50R มี Noise ต่ำมาก โฟกัสในสภาพแสงน้อยยังแม่นยำมาก ผมมักจะใช้ระบบ Face Detection และ Eye Detection ในการโฟกัสที่ใบหน้า ยกเว้นในหน้ามีขนาดเล็กมากหรือย้อนแสงแรงๆ จึงปรับไปที่ MF เพื่อคุมโฟกัสเอง เวลาใช้ MF ผมใช้วิธีการขยายโฟกัสไปที่ 100% เพื่อโฟกัสแล้วกดชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพได้เลย ไม่ต้องคอยย่อขยายให้เสียเวลา โฟกัสไม่มีหลุดเลย

FUJIFILM GFX 50R-ISO 1000, f2.8, 1/60 sec.

FUJIFILM GFX 50R-ISO 1250, f2.8, 1/125 sec.

FUJIFILM GFX 50R-ISO 100, f11, 1/60 sec.

FUJIFILM GFX 50R-ISO 250, f2.8, 1/8 sec.

ภาพคนส่วนมากผมใช้เลนส์ FUJINON GF 45 mm. F2.8 ซึ่งให้ภาพที่คมมากๆ และคุมแฟลร์ได้ดีมากด้วย เวลาถ่ายย้อนแสงดึงส่วนมืดจะไม่มีภาพสะท้อนมากวนในส่วนมืดเลย สามารถดึงภาพได้อย่างสบายใจ และมิติของภาพทีได้ดีมากอีกด้วย ภาพที่ต้องการละลายฉากหลังมากๆ เน้น Bokeh มากๆ ผมจะใช้ FUJINON GF 110 mm. F2 ซึ่งตัวนี้ละลายฉากหลังดีมากๆ ให้ภาพคมกริปตั้งแต่ช่องรับแสงกว้างสุด และยังมีแฟลร์น้อยมากๆ ไม่กลัวย้อนแสงเลย แถมโฟกัสไว แนะนำให้เป็นเลนส์ติดกล้องสำหรับสายถ่ายสาวเลยทีเดียว

FUJIFILM GFX 50R-ISO 1000, f2.5, 1/100 sec.

FUJIFILM GFX 50R-ISO 100, f11, 1/60 sec.

FUJIFILM GFX 50R-ISO 100, f4, 1/1000 sec.

ผมลองเอา FUJIFILM GFX 50R ไปถ่ายทะเลที่ระยอง ส่วนมากใช้เลนส์ GF 23 mm. F4 เน้นลากชัตเตอร์ยาวๆ ให้คลื่นนุ่มๆ โดยใช้ ND1000 และ ND 64 อากาศค่อนข้างร้อนและผมถ่ายภาพต่อเนื่องไว้หลายภาพ ข้อดีของ FUJIFILM GFX 50R คือการระบายความร้อนได้เร็วและมี Hot Pixel น้อยมาก โดยปกติแดดจ้าๆ แล้วลากชัตเตอร์ยาวมีโอกาสสูงที่กล้องจะฮีทและภาพมี Hot Pixel เยอะตั้งแต่เปิดรับแสงไม่กี่วินาที แต่ FUJIFILM GFX 50R สามารถลากชัตเตอร์ได้นานถึง 4 นาที โดยไม่เกิด Hot Pixel โดยที่ผมไม่ต้องเปิดระบบ Long Exposure Noise Reduction เป็นเรื่องที่ประทับใจมากในการใช้งานกล้อง FUJIFILM GFX 50R หลายภาพได้ใช้ระบบ Focus Bracketing เพราะถ่ายมีระยะใกล้ไกลที่ห่างกันมากทำให้ความชัดลึกไม่พอ

FUJIFILM GFX 50R-ISO 100, f11, 1/2 sec.

FUJIFILM GFX 50R-ISO 100, f11, 4 sec.

FUJIFILM GFX 50R-ISO 100, f9, 13 sec.

FUJIFILM GFX 50R-ISO 100, f10, 30 sec.

FUJIFILM GFX 50R-ISO 100, f8, 240 sec.

สุดท้ายผมเอากล้องไปถ่ายภาพตึกเวลากลางคืน ซึ่งต้องใช้ Dyanmic range ของเซ็นเซอร์แบบเต็มพิกัด เพราะต้องดึงรายละเอียดทั้งส่วนมืดและสว่างทั้งหมด ค่าเปิดรับแสงจะอยู่ที่ 30 วินาที f/11 ISO 100 ซึ่งได้ภาพต้นฉบับที่ยอดเยี่ยมมาก เวลาดึง Hilight Shadow ภาพโทนไม่เสียเลย การไล่ระดับยังดีมาก และมี Noise ที่ส่วนมืดต่ำมากๆ ด้วย

FUJIFILM GFX 50R-ISO 100, f8, 1/125 sec.

FUJIFILM GFX 50R-ISO 100, f8, 60 sec.

สรุป

FUJIFILM GFX 50R เป็นกล้องที่ให้ไฟล์ภาพยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะสีสัน ความคมชัด รายละเอียด รวมไปถึงช่วงการรับแสงที่ทำให้เราสามารถดึงรายละเอียดจาก RAW File ในภาพหลังได้อย่างสบายๆ และได้ไฟล์คุณภาพสูงเสมอ สามารถใช้ได้ในแทบทุกสภาพแสงเพราะความไวแสงสูงและมี Noise ต่ำ ระบบโฟกัสพึ่งพาได้และมีความแม่นยำสูง แต่อาจจะไม่ไวมากนักเพราะยังเป็นระบบ Contrast Detection ตัวกล้องหล่อเฟี้ยวและเหมาะกับการถ่ายภาพท่องเที่ยว ดูเป็นมิตร น้ำหนักเบาพอควร เป็นกล้องที่หากคุณต้องการอะไรที่แตกต่างและให้คุณภาพที่สุดยอด FUJIFILM GFX 50R คือคำตอบ