เรื่อง+ภาพ : pochfoto

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 185/2013 February

ภาพประเภทสตรีทโฟโต้กราฟฟี่นั้น เป็นภาพที่มีผู้ให้ความสนใจมากมาย ด้วยว่าชีวิตผู้คนตามท้องถนนนั้น มีเรื่องราวที่หลากหลายและมีความน่าสนใจ ผมเคยนำเสนอถึงที่มาที่ไปของภาพถ่ายสตรีทโฟโต้ฯ ไปบ้าง ในบทความฉบับที่แล้วๆ มา ซึ่งก็นานนมเต็มที ในตอนนี้จะเอาเรื่องเก่ามาเผากินก็จะดูง่ายเกินไปหน่อยใช่ไหมครับ ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ผมก็จะขอบอกเลยว่าในครั้งนี้เราจะไม่ได้พูดถึงประวัติความเป็นมาแต่อย่างใดกันแล้ว ที่ผมจะนำมาเสนอในครั้งนี้นั้นก็คือเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่างภาพหลายคน (รวมทั้งตัวผมเองในบางที) หลงลืมไปซึ่งเป็นเคล็ดลับที่จะทำให้เราใช้ได้กับการถ่ายภาพแนวสตรีทโฟโต้ หรือแม้แต่แนวสารคดี (Documentary)

  1. ทำความรู้จักกล้องของเราให้ดี กล้องแต่ละรุ่น แต่ละค่าย มีคาเรกเตอร์ที่แตกต่างกันไป รวมไปถึงการวางปุ่มควบคุมต่างๆ ด้วย ซึ่งจะสำคัญมากเวลาที่เร่งรีบ ในงานอย่างสตรีทโฟโต้ ที่จะมีช่วงเวลานาทีทองเพียงแค่ชั่วขณะเดียว อย่าให้เวลานั้นเสียไปกับการหาปุ่มปรับค่า หรือมัวก้มหน้าก้มตากดเมนู ตั้งค่าต่างๆ
  2. เปลี่ยนเลนส์ให้ไว และเลือกใช้เลนส์ให้แม่น เรามักจะใช้เลนส์ 50 มม. เป็นเลนส์ตัวเอกในการถ่ายภาพแนวสตรีทโฟโต้ ซึ่งเลนส์มาตรฐานเช่นเลนส์ 50 ให้ภาพที่ใกล้เคียงกับมุมมองจากสายตา แต่ในบางครั้งที่เราต้องการพลังจากเลนส์มุมกว้าง หรือการเจาะเฉพาะจุดสนใจจากเลนส์เทเลโฟโต้ ดังนั้นการเลือกเปลี่ยนเลนส์ให้ตรงกับภาพที่เกิดอยู่ตรงหน้าจึงต้องไว และใช้การตัดสินใจที่แม่นยำ จะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่สุดครับ ถ้าเราพลาดจังหวะเด็ดในการกดชัตเตอร์เพราะมัวเสียเวลาเปลี่ยนเลนส์
  3. ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ข้อนี้ไม่ได้ให้เราเป็นนักอนุรักษ์ แต่อย่างใดนะครับ ข้อนี้หมายถึงว่า ให้เราสนใจสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว สิ่งที่อยู่รอบข้าง รวมไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ มีอะไรที่น่าสนใจ จะวางอะไรไว้ในเฟรม เช่น แสง-เงาสวยๆ ที่กำลังตกบนกำแพง ในขณะที่ด้านข้างคนกำลังเดินเข้ามา หรือมีรถวิ่งผ่านมาพอดี ซึ่งการรอคอยจะเติมเต็มให้ภาพสมบรูณ์ยิ่งขึ้น
  1. ซ่อนตัวด้วยความกลมกลืน ในข้อนี้จะพูดถึงลักษณะของตัวช่างภาพเองครับ การแต่งกายให้กลมกลืนไปกับสถานที่ที่เราเข้าไปถ่ายภาพ จอมโจรชื่อดังอย่างอาแซง ลูแปง มักจะมีคนพบเห็นว่าเขาใส่สูท สวมหมวกทรงสูง และแว่นตาเดียว เพราะในยุคนั้น ชนชั้นสูงในยุโรปจะนิยมแต่งกายแบบนั้น ลูแปงต้องการให้กลมกลืนและไม่มีใครจำเขาได้นั่นเอง สำหรับช่างภาพอย่างเราก็เช่นกันครับ การแต่งกายที่เหมาะสมจะช่วยให้เราไม่เป็นที่สนใจ จากตัวแบบที่เราจะถ่ายภาพ และนั่นจะทำให้เราได้ความเป็นธรรมชาติในกิริยาท่าทางต่าง และดวงตา สีหน้า อย่างที่เราต้องการ
  2. ใช้อุปกรณ์ที่น้อยชิ้น ถ่ายภาพสตรีท ไม่ได้ไปออกรบ ไม่ได้ไปลุยป่า ขึ้นเขาลงห้วยแต่อย่างใด ดังนั้น อุปกรณ์น้อยชิ้นเพื่อความคล่องตัวจะดีที่สุด เลนส์ที่ไม่ได้ใช้ แฟลช ฯลฯ ไม่ต้องเอาไปให้หนัก กระเป๋าสะพายข้างใบกลางๆ สักใบ ติดเลนส์ 1-2 ตัวก็พอแล้วครับ ส่วนขาตั้งกล้อง เอาไว้ที่บ้าน ไม่ต้องพกมาให้เกะกะครับ เพราะเราถ่ายภาพช่วงกลางวันไปจนถึงเย็น สภาพแสงเพียงพอ และคงไม่มีพื้นที่และเวลาที่จะตั้งขาตั้งกล้องได้อยู่แล้ว
  3. ฝึกการจับจังหวะ ในอากัปกิริยาของคนนั้น จะมีจังหวะที่หยุดนิ่งชั่วขณะ สังเกตถึงท่าทางต่างๆ จะช่วยได้มาก และถ้าเรามีเวลามากพอเราจะสามารถคาดเดาล่วงหน้าถึงจังหวะต่อไปของคนเหล่านั้นได้อีกด้วย เช่น จังหวะก้าวเท้าของคนที่กำลังเดิน เด็กที่กำลังวิ่งเล่น ฯลฯ
  1. ใจเย็น เฝ้ารอ และอดทน ให้ใจเย็นและอดทนรอจังหวะในการกดชัตเตอร์ ดีกว่าไปขอให้แบบทำท่าทางอย่างที่เราต้องการ นอกจากความเป็นธรรมชาติของแบบแล้ว ความภูมิใจเล็กๆ ที่อยู่ในตัวเรา จะช่วยยกระดับตัวเราได้เป็นอย่างมาก
  2. มองหาอารมณ์ร่วม เมื่อไม่รู้ว่าจะถ่ายอะไร ให้มองหาอารมณ์ในขณะนั้น ความสนุกสนาน ความเศร้า ฯลฯ ในชีวิตอันหลากหลายของผู้คนจะมีอารมณ์ต่างๆ มากมาย ที่จะแสดงออกผ่านสีหน้า แววตา และกิริยาท่าทาง ล้วนมีเรื่องราวที่น่าจะเก็บภาพทั้งนั้น
  3. ชีวิตประจำวัน ชีวิตยามเช้า-เย็น การรับประทานอาหาร การเดินทาง กำลังทำงาน ฯลฯ ล้วนเป็นหัวข้อที่ใช้กันเป็นประจำในภาพสตรีทโฟโต้ทั้งนั้น เราเลือกที่จะนำเสนอได้มากมาย ดังนั้นคราวหน้าไม่ต้องมีคำถามแล้วนะครับว่าจะถ่ายอะไรดี

10. มองในมุมกราฟฟิก แสงเงาในภาพ สีสันของวัตถุ เส้นสาย ลวดลายตามถนนและอาคารต่างๆ มองหาสิ่งเหล่านั้นในมุมแบบกราฟิก จะพบว่ามุมภาพใหม่ๆ ซ่อนอยู่แถวนี้นี่เองครับ ฝึกมองบ่อยๆ พร้อมทั้งจัดองค์ประกอบภาพไปในตัวให้รวดเร็ว โอกาสได้ภาพดีๆ ก็จะง่ายขึ้น

10 ข้อนี้ เป็นเพียงเคล็ดลับในการถ่ายภาพแบบสตรีทโฟโต้ให้ได้ผลดี นอกเหนือไปจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะย้ำก็คือ ช่างภาพไม่ควรมีความเห็นแก่ตัวและอิจฉากัน ถ้าเราถ่ายภาพได้ดีกว่า เราควรแนะนำผู้อื่น เมื่อเราไปถ่ายภาพในสถานที่ต่างๆ ก็ไม่สร้างความเดือดร้อน จนช่างภาพชุดหลังไปถ่ายไม่ได้อีก นั่นเรียกว่าทุบหม้อข้าวตัวเอง และอย่าลืม รอยยิ้มจากเราจะทำให้การถ่ายภาพของเรามีความสุขมากขึ้นครับ…