เรื่อง : eyejung, ภาพทีม : CAMERART

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine ฉบับ 257/2019 February

CAMERART ไม่ว่าจะเดือนไหนเทศกาลอะไร เราก็มีความรักส่งมอบให้สมาชิกที่รักในการถ่ายภาพเสมอ เปิดประเดิมเดือนแรกของปีด้วยกิจกรรม One Day Trip ปีนี้…ประเดิมทริปเริ่มแรกรับปีใหม่ กับ จังหวัดบ้านเกิด eyejung ถ้าถามว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียชื่อคนลพบุรี เราก็เลยได้รับความอนุเคราะห์จากทาง ททท.สำนักงานลพบุรี มาเป็นไกด์นำเที่ยวจังหวัดลพบุรีเองเลยทีเดียว…

ออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่ หนีปัญหาควันพิษในเมืองหลวง แล้วเตรียมออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ทริปนี้เดินทางด้วยรถบัส พ่วงรถตู้อีก 2 คัน เรียกว่าทริปนี้เราไปกันอย่างอบอุ่น เพราะนอกจากทริปถ่ายภาพแล้ว  eyejung ขอพ่วงกิจกรรม CAMERART Party ที่จัดกันจนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว ว่าทุกต้นปีเราจะมีการจัดงาน  New Year’s party ในแบบฉบับของ CAMERART ที่งานนี้แค่พกดวงมาเป็นพอ และปีนี้เราจัดกการสังสรรค์ในบรรยากาศชายทุ่งเลยทีเดียว…เดี๋ยวมารอลุ้นกันในช่วงเย็น

แต่ตอนนี้แวะทานอาหารเช้ากันก่อนที่ร้านข้าวแกงบ้านสวน เป็นการรวมกลุ่มที่ได้เจอะเจอกันหลังจากไม่ได้เจอกันนาน  พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ โปรแกรมที่เราวางไว้คือ ไปทุ่งดอกทานตะวันที่เขาจีนแล เป็นทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ปีนี้ดอกทานตะวันบานตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ทำให้ช่วงเวลาที่เราจะเดินทางไปดอกทานตะวันก็โรยหมดแล้ว ทาง พี่นงนุช สุวรรณรักษ์ รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี แนะนำแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดลพบุรีที่กำลังมาแรง

ร้านกระเพรา & คอฟฟี่ ร้านชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของบรรยากาศโดยรอบของ ทุ่งดอกดาวกระจาย และดอกคอสมอส ร้านตั้งอยู่ที่หน้าทางเข้าวัดเขาจีนแล แม้ช่วงที่เราไปจะเป็นแปลงดอกดาวกระจายเริ่มโรยแล้ว แต่ทุ่งคอสมอสก็ยังสวยอยู่ และมีมุมให้เลือกถ่ายภาพมากมาย ใครชอบถ่ายภาพ Portrait ให้แบบเตรียมชุดสวยๆ เพราะบรรยากาศโดยรอบร้านโอบล้อมไปด้วยขุนเขาจีนแลเป็นอีกจุดที่แนะนำว่าควรแวะไปเช็คอินให้คนอื่นได้อิจฉา ทริปนี้ไม่พลาดลากลูกสาวเฉพาะกิจ ของ eyejung น้องพลอย ลูกสาวสุดน่ารัก มาถ่ายภาพในบรรยากาศทุ่งดอกคอสมอสทามกลางขุนเขา

ภาพถ่ายโดย ชาคริต ปิ่นสวัสดิ์

ภาพถ่ายโดย นิพนธ์ เกตุจรัส

ภาพถ่ายโดย เตโชทัย พันธ์น้อย

ภาพถ่ายโดย เตโชทัย พันธ์น้อย

ต่อจาก ร้านกระเพรา & คอฟฟี่ เดินทางเข้าไปทางเข้าจีนแล ผ่านทุ่งดอกทานตะวันที่โรยรา ไปหมดแล้ว  แต่เราจะไปเที่ยวชมฝูงนกยูงกว่า 100 ตัว ที่ วัดเวฬุวัน หรือ วัดเขาจีนแล นกยูงที่นี่เลี้ยงปล่อยแบบธรรมชาติ ท่านพระครู ได้ให้ข้อมูลว่า เดิมที่ท่านเจ้าอาวาสนำมาเลี้ยงเพียง 2 คู่ 4 ตัว เป็นนกยูง สายพันธุ์อินเดีย และนกยูงก็ขยายพันธุ์จนมีสูงสุดถึง 300  กว่าตัว แต่เมื่อสองปีหลัง จำนวนนกยูงลดจำนวนลง เพราะคนที่นำสุนัขมาปล่อยที่วัด จนทางวัดต้องขึ้นป้ายขอร้องว่าอย่านำสุนัขมาปล่อยที่วัด และอีกสาเหตุหนึ่ง คือลิงที่อพยพมาจากศาลพระกาฬ  ที่ตอนนี้ทวีจำนวนมากขึ้น มาขโมยกินไข่นกยูง ซึ่งทางวัดก็แก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ตก และคนที่มาเที่ยววัด ชอบมาขอนกยูงจากท่าน จนท่านต้องขึ้นป้ายขอร้องเลยว่าอย่าขอนกยูง ให้เป็นสมบัติส่วนร่วม เพื่อให้นักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ ได้มาชื่นชมความสวยงามของนกยูงที่นี่ ด้วยความสวยงามของนกยูง จนถูกยกให้เป็นนกสวยงามและสง่างามที่สุดของโลก และเป็นราชินีของนกทั้งปวง  แค่มาเที่ยวที่ วัดเวฬุวัน จังหวัดลพบุรี เราจะได้เห็นความสวยงามของราชินีของนกทั้งปวง ได้ที่นี่ มาเที่ยวแล้วก็เก็บภาพสวยๆ กลับไปก็พอ อย่ามานกยูงจากท่าน ให้พระท่านต้องลำบากใจเลย

จากวัดเวฬุวัน เราก็เดินทางกลับเข้าตัวเมืองเพื่อจะไปทานอาหารกลางวัน ที่วันนี้เราได้รับความอนุเคราะห์จากทาง ททท. นำทีมเจ้าบ้านต้อนรับคณะ CAMERART โดย คุณนงนุช สุวรรณรักษ์ รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี และทีม ททท.ลพบุรี แท็คทีมกันมาดูแลพวกเรา อย่างอบอุ่นเหมือนกลับมาบ้านเลย อาหารเที่ยงเราก็ยังไม่หลุดธีมในแบบฉบับมนต์รักลุกทุ่ง ที่ทางท่านผู้ช่วย ผอ.ททท.สำนักงานลพบุรี พาเรามาทานอาหารกันที่ ตลาดโบราณบ้าน 4 ภาค ลพบุรี อยู่ติดกับ วิทยาลัยนาฏศิลป์ลพบุรี มีที่จอดรถสะดวก และครั้งนี้เองเราได้รู้ว่าจังหวัดลพบุรี ก็มีตลาดโบราณ 4 ภาค เดินเข้ามาสัมผัสกับวิถีชีวิต ความเป็นอยู่แบบไทยๆ ท่ามกลางบรรยากาศบ้านเรือนไทยโบราณ 4 ภาค (ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้) ซึ่งเหมาะมาจัดถ่ายภาพมาก ใครอยากหามุมถ่ายภาพ ในมุมย้อนยุครับรองว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวัง วันนี้เรามาในตีมรูปแบบฉบับมนต์รักลุกทุ่ง อาหารวันนี้ที่ทาง ททท. จัดให้ก็เป็นแบบบ้านๆ ข้าวราดกระเพราถาด แม้จะเป็นอาหารสไตล์บ้านๆ แต่ความอร่อยบอกเลยว่าระดับภัตตาคาร นอกจากกระเพราหมูไข่ดาวที่เสริฟมาเป็นถาดแล้ว ให้ความฟินในการย้อนวันวาน  ยังมีก๋วยจั๊บญวนที่อร่อยไม่แพ้กัน ปิดท้ายกับไอศกรีมกะทิสูตรโบราณที่ งานนี้หลายคนขอเบิ้ลกันไม่ต่ำกว่า 2 ถ้วย โดยเฉพาะพี่สมชาย ชอบมากทานไป 3 ถ้วย ลืมไปเลยว่าตัวเองเป็นโรคเบาหวาน 555….. และอีกหนึ่งอย่างที่อยากแนะนำ หมูทุบ ผลิตภัณฑ์โอท็อประดับ 5 ดาว ทริปนี้นอกจากจะอิ่มท้องกับความอร่อยแล้ว ยังได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับไปด้วย ใครอยากมาเที่ยวแนะนำว่าควรมาเสาร์-อาทิตย์ เพราะจะมีร้านค้าเปิดหลายร้าน แต่ถ้ามาวันธรรมดาเป็นกรุ๊ปใหญ่แบบ CAMERART แนะนำว่าโทรนัดหมายกันก่อนที่ คุณอรพิน จิระพันธุ์วาณิช โทร. 081-844-4446 เพื่อจะให้ทางสถานที่เตรียมการล่วงหน้า

สถานที่ท่องเที่ยววันนี้เรายังไม่จบมาธีมย้อนยุคทั้งที…แหล่งท่องเที่ยวต่อไปเป็นแหล่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก วันนี้เราเลยจะพาไปตามรอยแม่หญิงการะเกด จากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กับสถานที่สำคัญที่อยู่ในละคร สถานที่แรก พระนารายณ์ราชนิเวศน์ หรือที่ชาวเมืองลพบุรีเรียกกันจนติดปากว่า วังนารายณ์ อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญ ของจังหวัดลพบุรีที่ต้องห้ามพลาด เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์สุดคลาสสิกบอกเล่าเรื่องราวในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่สำคัญมาก มีรูปแบบสถาปัตยกรรมโดดเด่นมีลักษณะ ผสมผสานศิลปะสถาปัตยกรรมของตะวันตกเข้ากับแบบไทย สะท้อนการรับวัฒนธรรมตะวันตกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่เด่นชัดไม่เหมือนยุดใด สำหรับใช้แปรพระราชฐาน ออกว่าราชการ ต้อนรับแขกเมือง และล่าสัตว์ ต่อมาเมื่อสมเด็จพระนารายณ์ฯ เสด็จสวรรคต สถานที่แห่งนี้ก็ถูกปล่อยทิ้งร้างตั้งแต่นั้น กระทั่งได้รับการบูรณะ ฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง ในสมัยรัชกาลที่ 4 และได้มีการสร้างพระที่นั่งพิมานมงกุฎและหมู่ตึกพระประเทียบขึ้นมาใหม่ ทรงพระราชทานนามว่า “พระนารายณ์ราชนิเวศน์” ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์

ปัจจุบัน วังนารายณ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้จัดแสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ ตลอดจนภาพประวัติศาสตร์ต่างๆ ในวังนารายณ์ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 เขต ได้แก่ เขตพระราชฐานชั้นนอก, เขตพระราชฐานชั้นกลาง และเขตพระราชฐานชั้นใน เราสามารถมาแต่งตัวย้อนยุคแล้วไปถ่ายภาพสวยๆ

รางวัลชมเชย ภาพถ่ายโดย นิพนธ์ เกตุจรัส

เรายังตามรอยแม่หญิงการะเกดกันต่อ  กับแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นสัญญาลักษณ์เมืองละโว้อีหนึ่งแหล่ง  นั่นคือ พระปรางค์สามยอด ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง ริมทางรถไฟใกล้กับศาลพระกาฬ แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และแลนด์มาร์คสำคัญแห่งหนึ่งของลพบุรี ด้วยสถาปัตยกรรม ศิลปะแบบบายน ลักษณะเป็นปราสาทขอม พระปรางค์สร้างจากศิลาแลง และฉาบปูนอย่างสวยงาม เรียงต่อกัน 3 องค์ และสถานที่นี่ ก็มีเจ้าถิ่นเป็นน้องลิงจำนวนมาก ก่อนลงไปถ่ายภาพ eyejung มีการแนะนำก่อนข้อควรระวัง คือจะเข้าไปถ่ายภาพที่ พระปรางค์สามยอด  ต้องอย่าถือของพลุ่งพะลัง หมวก แว่นตา ระวังดีๆ เลย ลิงที่นี่จะชอบมาก แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ของที่นี่ คือ ลิงค่อนข้างเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว อาจจะมีการปีนขึ้นมาบนตัวเรา และช่วยหาเห็บหาเหา และแสดงความรักกับนักท่องเที่ยว แต่กับคนในพื้นที่ลิงจะสองมาตรฐาน จนมีคนลพบุรี ออกมาโพสเฟสบุ๊ค เรียกของสองมาตรฐานจากลิงลพบุรี จนกลายเป็นข้อความที่ส่งต่อเป็นจำนวนมากกับพฤติกรรมของเจ้าจอ จนไม่รู้ว่าจะขำ หรือสงสารดี กับคำถามสองมาตรฐาน เหตุก็คือ ลิงแกล้งแต่คนพื้นที่ ไม่สนนักท่องเที่ยว กับโพสต์ภาพข้อความจากคนที่อาศัยอยู่ในเมืองลพบุรีที่ต่างพากันกุมขมับกับพฤติกรรมเจ้าจ๋อในพื้นที่ ที่มักจะแกล้งแต่คนบ้านเดียวกันไม่ยักจะแกล้งชาวต่างชาติที่เดินทางไปท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ใช้สมาชิก “ขึ้นคร่อมเสี่ยวลู่” ที่ระบุข้อความตัดพ้อในเรื่องสองมาตรฐานของลิงที่ลพบุรีว่า ลิงลพบุรีโคตร…. เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวแต่กลั่นแกล้งคนลพบุรีด้วยกันเอง แม้จะเคยปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวแต่ลิงดูออก เลยถูกแกล้งเหมือนเดิม และก็มีคนลพบุรีจำนวนมากมาแชร์ประสบการณ์ว่าถูกลิงแกล้ง อาทิ คือ แบบแกล้งแต่คนลพบุรีจริงๆ เห็นฝรั่งเดินไปมานางนั่งกันเรียบร้อยเว่อร์ลำใย, อิลิงเมืองละโว้สองมาตรฐาน คือ มันแยกออกได้ยังอันไหนคนลพบุรี จนหลายคนบอกว่าอยากจะสร้างเพจแฉลิงให้ชาวโลกรู้ว่าพวกนี้สร้างภาพ 555…. เป็นความน่ารักของเจ้าลิงน้อยที่เป็นสีสันของจังหวัดลพบุรี กลายเป็นเรื่องเล่าน่ารักๆ ของจังหวัดที่เป็นอีกเมืองน่ารัก

ภาพถ่ายโดย นิพนธ์ เกตุจรัส

ภาพถ่ายโดย สมชาย สงวนกชกร

จากปล่อยสมาชิกให้ไปเผอิญเชิญชะตากรรมกับเจ้าถิ่นที่ พระปรางค์สามยอด แล้ว eyejung ก็มาลัดเลาะมาด้านหลังพระปรางค์สามยอด เดินชมสตรีทอาร์ต งานศิลปะเท่ๆ บนกำแพงฝาผนังในเมืองลพบุรี ให้นักท่องเที่ยวสายฮิปสเตอร์อย่างพวกเราได้และเช็คอิน

จากตัวเองลพบุรี ออกนอกเมืองลพบุรีมาประมาณ 15 กิโลเมตร เราก็จะพากันต่อในบรรยากาศท้องทุ่ง ณ “วัลลภาฟาร์ม” ที่อยู่ไม่ไกลจากสถานี รถไฟโคกกระเทียม จากวงเวียนสระแก้ว ไปตามถนนเลียบคลองชลประทาน มุ่งหน้าไปทางอำเภอบ้านหมี่ พอถึงสี่แยกไฟแดงตรงสำนักงานชลประทานที่ 10 เลี้ยวขวาข้ามสะพาน แล้วเลี้ยวขวาอีกครั้งเพื่อวิ่งเลียบคลองชลประทานไปตามทางลูกรังอีกประมาณ 600 เมตร เราจะได้เจอกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ใครชอบบรรยากาศท้องทุ่งแนวสโลไลฟ์ต้องมาที่นี่เลย “วัลลภาฟาร์ม” เป็นอีกที่ ที่  CAMERART ค่อนข้างมาบ่อยเพราะชอบในบรรยากาศแบบสบายๆ แถมเจ้าของมีความใจดีมากขออะไรได้จัดให้ได้หมด เพราะ คุณศราวุธ ค้าขาย หรือ คุณเต้ เป็นผู้ดูแลกิจการของทางวัลลภาฟาร์ม เมื่อปีก่อนเราเคยจัดให้ถ่ายภาพการควบม้า แต่มาปีนี้ ม้าในฟาร์มล้มตายไปหลายตัว ทำให้จัดแบบที่ผ่านมาไม่ได้ แต่ที่นี่ยังคงมีควาย  และวัว เป็ดที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของตีมทริปวันนี้ กับสไตล์มนต์รักลุกทุ่ง ที่ทาง คุณเต้ นำเสนอให้ แถม ยังใจดีจัดหาแบบ พี่คล้าว ทองกวาว และอีกหนึ่ง สาวสไตล์คาวเกิร์ล ให้พวกเราได้เก็บภาพในบรรยากาศท้องทุ่งเพลิดเพลินวิถีชีวิตที่เรียบง่าย 

และอย่างที่บอกว่าทริปนี้ เรารวมการจัด CAMERART Party ไว้ในทริปนี้ด้วย eyejung เลยขอจัดในตีมเก๋ๆ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศท้องทุ่ง กับ พี่คล้าว และน้องทองกวาว ซึ่งพอพี่คล้าวเดินออกมา ออร่าความหล่อทะลุออกมาเลย ทุกคนเลยแซว พี่คล้าวต้องเพิ่งกลับมาจากเมืองจากแน่ เพราะตัวขาวจั๊ว ส่วนน้องทองกวาว ก็สวยหวาน มาเชียว ถ่ายภาพมนต์รักลูกทุ่งกันอยู่ เจ้ามาญ่า นกแก้วมาคอร์ สีฟ้า ของผู้ดูแลนายแบบนางแบบ ก็ช่างจงใจแย่งซีนทุกคนจริงๆ บินโฉบไปมา ทำให้ทุกคนต้องขอเปลี่ยนเป็นเลนส์เทเล ถ่ายภาพกันในบรรยากาศสุดชิลๆ แล้ว  กิจกรรมเรายังไม่จบ เพราะอีกช่วงเวลาที่ทุกคนต่างรอคอย คือการแจกรางวัล ซึ่งรางวัลใหญ่ปลายปี ได้รางวัลเป็น Sony A7 III จากการอัพเกรดของรางวัล (แต่ผู้ชนะเพิ่มเงินเองอีกนิดหน่อยนะ…555…) ซึ่งปีนี้ตกเป็นของ พี่แสงชัย ส่วนรางวัลที่ 2 จาก บริษัท เวิล์ดคาเมร่ากรุ๊ป จำกัด ซึ่งปีนี้ คุณปิงปองจาก World Camera เดินทางมามอบของรางวัลด้วยตัวเอง ส่วนรางวัลเป็นของ…พี่ป้อน ยังคงตำแหน่งนี้เช่นเคย รางวัลที่ 3 จาก บริษัท แอดวานซ์ โฟโต้ซีสเทมส์ จำกัด

ขาตั้ง Manfrrotto ขาตั้งกล้องคุณภาพสูงจากอิตาลี พี่หนุ่ม กลับมาช่วงชิงตำแหน่งแชมป์แล้ว รางวัลที่ 4-6 ก็ยังเป็นของ บริษัท แอดวานซ์ โฟโต้ซีสเทมส์ จำกัด อีกเช่นกัน และรางวัลชมเชยอีก 10 รางวัล จาก บริษัท โฟโต้ซีสเทมส์ จำกัด กิจกรรมเล็กๆ แต่ของรางวัลเยอะมากกกกก ของแจกเรายังไม่หมด eyejung แซนตร้า ใจดี แจกเบอร์ให้ได้ลุ้นกันต่อ งานนี้ใครพกดวงมาก็พอ ฝีมือไม่ต้อง 555

ภาพถ่ายโดย นิพนธ์ เกตุจรัส

ภาพถ่ายโดย สมชาย สงวนกชกร

ภาพถ่ายโดย ธวัชชัย ศิริธนพรพงษ์

ภาพถ่ายโดย นิพนธ์ เกตุจรัส

รางวัลชมเชย ภาพถ่ายโดย แสงชัย เตชะสถาพร

แม้รางวัลเราจะเยอะแยะมากมาย แต่หลายคนดีใจที่รางวัลเล็กๆ ออกไป เพราะรางวัลใหญ่วันนี้เรามีถึง 3 รางวัล เป็นกล้อง Sony DSC-W830 รางวัลจาก สมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ มูลค่าตัวละ 4,300 บาท ซึ่งพอรางวัลเล็กๆ ออก ตบมือดีใจแทนเพื่อนกันใหญ่เลย 555… แต่มาเจอหักมุขจาก eyejung  ด้วยการคั้นกลาง แจก Sony  DSC-W830 ถึงกับกลับตัวกันไม่ถูก ต้องมาลุ้นให้จับถูกเลขตัวเอง งานกลั่นแกล้งคืองานของ eyejung เอง 555…  และที่เจ็บช้ำสุดของช็อตสุดท้าย ที่เรียกทุกคนที่ได้ลุ้นรางวัลออกมา แต่ถ้าใครไม่ได้รางวัลไม่ต้องเสียใจ eyejung  นอกจากจะมีความใจร้าย เราก็มีความใจดี เพราะใครไม่ได้รางวัลเรามีผ้าซับน้ำตาแจก แล้วเราก็แจกผ้าไปให้ซับน้ำตาจริงๆ นะ เป็นความปิดท้ายกิจกรรมที่เรียกเสียงหัวเราะ และรอยยิ้ม แต่จะต้องเสียใจก็ตาม สำหรับคนที่ไม่ได้รางวัล ปีนี้รีบทำบุญ แล้วไปรอลุ้นกันปลายปี Bye….eyejung

 

ขอขอบคุณผู้สนับสนุนกิจกรรม

บริษัท โซนี่ ไทย จํากัด

บริษัท แอดวานซ์ โฟโต้ซีสเทมส์ จำกัด

 บริษัท เวิล์ดคาเมร่ากรุ๊ป จำกัด

บริษัท โฟโต้ซีสเทมส์ จำกัด

สมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี

วัลลภาฟาร์ม สอบถามเรื่องกิจกรรมหมายเลขโทรศัพท์ 08-2717-5633 (คุณเต้)