เรื่อง+ภาพ : poch

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 261/2019 June

Reflection หรือ ภาพเงาสะท้อน เป็นภาพถ่ายเชิงสร้างสรรค์ที่มักจะสร้างความแปลกตา และสร้างความน่าสนใจในภาพได้เสมอ สิ่งสำคัญที่ทำให้ภาพถ่ายเงาสะท้อนนั้นน่าสนใจอยู่ที่รูปทรงของวัตถุนั้นๆ และพื้นผิวของส่วนที่เป็นเงาสะท้อน เช่น น้ำ กระจก หรือ โลหะ ซึ่งปัจจัยที่เราจะได้ภาพสะท้อนที่ดีนั้นก็ขึ้นอยู่กับทิศทางของแสง และตำแหน่งที่เราถ่ายภาพ

ใช้เงาสะท้อนช่วยเล่าเรื่อง

ภาพเงาสะท้อนที่ดีนั้นจะช่วยสร้างอารมณ์ในภาพให้มาก และตัววัตถุที่สะท้อนก็มีความโดดเด่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะลักษณะภาพสถาปัตยกรรม ภาพแสงไฟยามค่ำคืน หรือแม้แต่ภาพที่เน้นเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง (ในภาพยนตร์เรื่อง Rainbow Song กำกับโดย Shunji Iwai มีอยู่ฉากหนึ่ง นางเอกเดินคุยกับพระเอกริมสนามฟุตบอล แล้วทั้งสองคนก็เงยหน้าขึ้นไปเหมือนเห็นอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าที่ให้ความรู้สึกตื่นตา ปกติแล้วกล้องจะแพนตามสายตาทั้งคู่ไปบนฟ้า แต่มุมกล้องกลับก้มลงมาที่ขาของทั้งสองคน เห็นแอ่งน้ำที่กำลังสะท้อนภาพรุ้งกินน้ำที่ทั้งคู่มองเห็นแทน กลายเป็นฉากที่สร้างความประทับใจให้ผู้ดูได้) ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้ภาพเงาสะท้อนในการเล่าเรื่อง

ตัวอย่างภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Rainbow Song ของ ชุนจิ อิวาอิ

บิดเบือนเพื่อความแปลกใหม่

ในการถ่ายภาพเงาสะท้อน เราจะต้องมองหาสถานที่ที่มีพื้นผิวที่สามารถสะท้อนเงาที่ตกลงไปได้ เช่นน้ำ หรือวัตถุที่มีพื้นผิวเรียบ ในแอ่งน้ำขังหลังฝนตก หรือกระจกที่สะท้อนภาพ จะมีเงาสะท้อนของวัตถุที่หลากหลายปรากฏอยู่ ในบางครั้งอาจจะไม่จำเป็นที่เงาสะท้อนนั้นจะต้องเรียบแบน หรือสะท้อนภาพที่เห็นเหมือนจริงทุกประการ ลวดลายและการบิดเบือนที่เกิดจากพื้นผิวที่สะท้อนที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น อย่างเงาน้ำที่มีการเคลื่อนไหวก็ให้ความน่าสนใจในภาพได้ไม่ยาก ลองมองหามุมสำหรับถ่ายภาพในหลายๆมุมดู อาจจะทำให้ได้ภาพในรูปแบบกราฟฟิกที่แปลกตาออกไปจากเดิมได้ไม่ยาก

 

ระดับของกล้อง กับ เงาสะท้อน

สำหรับการถ่ายภาพเงาสะท้อนจากน้ำนั้น มีหลักการอยู่อย่างหนึ่งที่ต้องระวังคือ การเลือกมุม และเลือกระดับของกล้องที่เหมาะสมหากเลือกมุมถ่ายภาพโดยให้ระดับของกล้องที่ต่ำเกินไป ภาพเงาสะท้อนอาจจะไม่สวยงามด้วยพื้นที่ที่ถูกบีบให้แคบลงดูอึดอัด และในทางกลับกันการเลือกใช้มุมภาพด้วยระดับกล้องที่สูงอาจจะทำให้เห็นเงาสะท้อนชัดเจนก็จริง แต่มุมภาพที่สูงเกินไปอาจจะเป็นการกดตัวแบบให้ดูด้อยลงได้เช่นกัน และระดับกล้องที่สูงเกินไปอาจจะทำให้วัตถุที่เราจะถ่ายกับเงาสะท้อนที่ได้นั้น ดูห่างกันมากเกินไปด้วย ดังนั้นการหามุมที่เหมาะสมกับสิ่งนั้นๆ ที่เราจะถ่ายโดยการขยับร่างกายสักเล็กน้อย ย่อขาหรือยืดตัวขึ้นจึงเป็นเทคนิคสำคัญครับ

มุมมหาชนที่เปลี่ยนไป

เราสามารถเลือกใช้การถ่ายภาพเงาสะท้อนนี้เพื่อสร้างความแปลกตาให้กับภาพในมุมเดิมๆ หรือในสถานที่ที่มีผู้คนไปถ่ายภาพกันมากอย่างมุมมหาชน ซึ่งปกติภาพที่ได้จึงมักจะมีลักษณะภาพที่คล้ายๆ กัน ดูแล้วไม่มีความแปลกใหม่น่าสนใจ ถ้าเราลองมองหาแอ่งน้ำขัง หรือแม่น้ำ คู คลอง หนอง บึง ที่อยู่บริเวณนั้นเพื่อถ่ายภาพเงาสะท้อนก็จะช่วยให้ได้มุมภาพที่แปลกใหม่ได้เช่นกันครับ

หลายๆ ครั้งที่เรามักจะใช้กระจกเป็นตัวช่วยในการสะท้อนภาพ เช่นการถ่ายภาพคนเพื่อให้ดูเหมือนว่าเป็นฝาแฝด หรือมุมมองที่สร้างสรรค์แปลกใหม่จากกระจกที่สะท้อนมุมภาพที่ทับซ้อนกัน เหล่านี้ก็ล้วนเป็นการสร้างสรรค์มุมมองใหม่ๆ ที่แปลกตาไปจากความเป็นจริงจากเงาสะท้อนได้ทั้งนั้น 

เทคนิคการถ่ายภาพเงาสะท้อนนั้น ก่อนอื่นให้ถามตัวเราก่อนว่าอยากได้ภาพแบบใดบางภาพต้องการมุมภาพที่กว้างเห็นทั้งวัตถุต้นแบบและวัตถุที่เกิดจากเงาสะท้อนด้วย อาจจะต้องเลือกใช้เลนส์มุมกว้าง ตั้งค่ารูรับแสงให้สูงๆ เพื่อความชัดลึกของภาพ หรือบางภาพอาจจะให้เห็นเพียงวัตถุต้นแบบแค่บางส่วน ที่เหลือพื้นที่ทั้งหมดเป็นภาพเงาสะท้อนก็มี ดังนั้นขึ้นอยู่กับการจัดองค์ประกอบภาพ ที่ผู้ถ่ายมีพื้นฐานมากน้อยเพียงใด การดูภาพให้มากๆ ก็จะมีประโยชน์เวลาจัดองค์ประกอบภาพได้ครับ

ช่วงนี้เริ่มเข้าฤดูฝนแล้ว ถนนหนทางหลายจุด มีน้ำเจิ่งนอง มีแอ่งน้ำขัง น้ำในแม่น้ำก็เริ่มเอ่อสูงขึ้น คงได้เวลามองหาเงาสะท้อนสวยๆ ได้ไม่ยากนะครับ เปลี่ยนจากการมองฟ้ามาก้มมองพื้นบ้าง ไม่แน่บางทีอาจจะได้ภาพสวยๆ แปลกตาใหม่ๆ จากสถานที่เดิมๆ ที่เราเคยไปถ่ายรูปมาแล้ว เพิ่มขึ้น และทำให้ลดความน่าเบื่อในฤดูฝนไปบ้างก็ได้นะครับ…