เรื่อง : เรื่อง  eyejung, ภาพ : BangrakStudio Pack

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 251/2018 August

ถ้าคุณเป็นคนชอบบรรยากาศสีเขียว การท่องเที่ยวหน้าฝนเป็นคำตอบของคุณเลย ไม่ว่าจะไปไหน ความเขียวขจีของป่าเขาลำเนาไพร ก็จะทำให้เราสบายตา รอบนี้เราได้รับเชิญจากทีม ททท.ภาคเหนือ ให้ร่วมทริปสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวหน้าฝน กับชื่อทริปที่สุดกิ๊บเก๋ เที่ยวเหนือฝัน…วันธรรมดา “เชียงใหม่ธรรมดาหน้าฝน” กับจังหวัดเชียงใหม่ที่สวยทุกฤดูกาล จุดหมายแรกของการสำรวจเริ่มต้นกันที่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์ ชื่นชมผืนป่าดึกดำบรรพ์ บรรยากาศในอ่างกาหลวงปกคลุมด้วยเมฆที่ลอยพัดผ่านเข้ามาตลอดเวลา อากาศจึงชื้นและเต็มไปด้วยละอองน้ำ ทำให้ต้นไม้ใหญ่ในป่าดิบเขามีมอสและเฟินขึ้นหุ้มเต็มต้นจนแลดูราวกับป่าในยุคดึกดำบรรพ์ สองข้างทางเราจะได้เห็นพืชที่ชอบความชื้นอย่างเช่น มอส เฟิน ฝอยลม ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น โอบล้อมต้นไม้น้อยใหญ่จนมองดูเหมือนต้นไม้ใส่เสื้อเลยทีเดียว ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพอันโดดเด่นนี้ ทำให้ได้รับสมญาอีกนัยว่า “ประตูสู่หิมาลัย” ในช่วงที่เดินในอ่างกาหลวง เราจะสัมผัสหมอกและไอเย็นจากละอองฝนลอยตัวจับอยู่ทั่วตัว กับความเขียวชอุ่มตลอดเส้นทาง

ช่วงบ่ายออกตามหาความสดชื่นกันที่ “น้ำตกผาดอกเสี้ยว” หรือ “น้ำตกรักจัง” ตั้งอยู่ที่บ้านแม่กลางหลวง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นน้ำตกที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ การจะเข้าไปไปน้ำตกต้องมีไกด์ไปด้วย ตามกฎของอุทยานต้องมีไกด์เข้าไปด้วย 1 คน ต่อ 1 กลุ่ม (กลุ่มหนึ่งไม่เกิน 10 คน) ค่าไกด์ 200 บาท ซึ่งทางอุทยานต้องการให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมกับการท่องเที่ยว เพื่อปลูกจิตสำนึกในการรักและช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติ น้ำตกผาดอกเสี้ยว มีทั้งหมด 10 ชั้น ระยะทางเดินทั้งหมด 3 กิโลเมตร ควรสวมรองเท้าสำหรับเดินป่า เพราะทางค่อนข้างลื่น ยิ่งช่วงฤดูฝน ทางจะลื่นมาก แต่เส้นทางเดินไม่ลำบาก ถ้าใครเดินน้ำตกเหวนรกไหว ที่นี้ถือว่าง่ายๆ ช่วงระหว่างทางเดิน เราจะเดินผ่านแปลงดอกไม้ของชาวบ้าน ผ่านไร่กาแฟ เดินเข้าไปไม่นานก็จะได้ยินเสียงน้ำตก บรรยากาศร่มรื่น ถ้าฝนไม่ตกเรายังได้ศึกษาธรรมชาติสองข้างทาง จนลืมความเหนื่อยไปได้เลยที่เดียว ไฮไลท์ของน้ำตกผาดอกเสี้ยวจะอยู่ที่ชั้น 7 ซึ่งจะมีสะพานไม้ไผ่ข้ามลำธาร เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องรักจัง เป็นน้ำตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของเชียงใหม่

เดินออกมาจากน้ำตกผาดอกเสี้ยว เราก็จะพบกับความเขียวขจีของนาขั้นบันได ของหมู่บ้านแม่กลางหลวง สำหรับคนที่สนใจอยากไปเที่ยวน้ำตกแห่งนี้ สามารถติดต่อได้ที่ บ้านแม่กลางหลวง (ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ) กม. 26 หรือผู้นำเที่ยวเฉพาะถิ่น 09-3131-3850, คุณอุ่น 08-1021-8927, ลุงโยแสะ 09-3047-6088 คุณพงทู และ 08-1960-8856 คุณซ่าทู

เส้นทางสำรวจเที่ยววันธรรมดาวันที่สอง เราเริ่มต้นที่ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ตั้งอยู่ถนนเชียงใหม่-ฮอด หมู่ 2 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองอำเภอจอมทอง และเป็นวัดพระธาตุประจำปีชวด (ปีหนู) มีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่นคือ เป็นพระบรมธาตุที่ไม่ได้ฝังใต้ดินแต่ประดิษฐานอยู่ในกู่ภายในวิหาร สามารถอัญเชิญมาสรงน้ำได้ใครได้มาเยือน อำเภอจอมทอง ต้องแวะสักการะกราบไหว้ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร สักครั้งหนึ่งในชีวิต

จากอำเภอจอมจองเดินทางมาต่อที่อำเภอสันป่าตอง กับ Cafe โรงบ่ม Kaomai Estate 1955 (เก๊าไม้ แปลว่า ไม้ใหญ่ ภาษาถิ่นดั้งเดิมของล้านนา) เป็นคาเฟ่ ที่ปรับเปลี่ยนมาจากอาคารโรงบ่มใบยาสูบที่มีอายุยาวนานมากว่า 60 ปี มาเป็นร้านกาแฟ และอีกส่วนหนึ่งเป็นของเก๊าไม้ลานนา รีสอร์ท รีสอร์ทสไตล์ล้านนา โคโลเนียล และตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก รีสอร์ทที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งอยู่ในบริเวณพื้นที่เดียวกัน Kaomai Estate 1955 ร้านกาแฟล้านนาในบรรยากาศแบบกรีนซีซั่น ด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติต้นไม้ปกคลุมด้วยไม้ใหญ่มากมาย และพืชพรรณธรรมชาติมากกว่า 100 ชนิด จนมีนกธรรมชาติหมุนเวียนเข้ามาอาศัยอยู่มากกว่า 50 สายพันธุ์ ใครชอบบรรยากาศแบบ ECO ต้องไม่พลาดมานั่งผ่อนคลายสูดอากาศบริสุทธิ์ แล้วมาทำตัวสโลว์ไลฟ์ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่ Kaomai Estate 1955 อีกหนึ่ง Cafe โรงบ่ม ที่ใครได้มาก็ต้องตกหลุมรัก

ออกจากคาเฟ่โรงบ่ม เราก็มาแวะชม บ้านน้ำตนคนโท ของสล่าแดง ตั้งอยู่ที่ อำเภอแม่ว่าง จ.เชียงใหม่ สล่าแดงเป็นครูช่างแห่งเมืองล้านนา ที่เปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้การทำน้ำต้นคนโทภาชนะใส่น้ำ ที่ถูกลืมของเมืองล้านนา เป็น 1 ใน 10 เครื่องปั้นสกุลพันธุ์ ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงทำพิธีหลั่งน้ำทักษิโณทกประกาศอิสรภาพจากหงสาวดี ถือว่าเป็นภาชนะที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สถานที่แหล่งนี้จึงเป็นแหล่งรวบรวมเครื่องปั้นดินเผาของเก่าใน 8 จังหวัดภาคเหนือ บรรยากาศภายในบ้านสล่าแดงจึงควบคุมไปด้วยการเรียนรู้ และแหล่งสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ที่ไม่อยากไปทำงานในระบบสังคมเมือง และอยากอยู่ในภูมิลำเนาของตนเอง และเรียนรู้ที่จะใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นต่อยอดให้กับตนเอง พร้อมทั้งยังช่วยกันอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นส่งต่อคนรุ่นใหม่ให้ยังคงได้ภาคภูมิใจในอายระธรรมของตนเอง ใครผ่านไปที่ อ.แม่วาง อย่าลืมแวะไปชมเครื่องปั้นดินเผ่าน้ำต้น และพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดกับสล่าแดง คุณอาจจะได้แรงบันดาลใจดีๆ กลับมามากมาย

เรียนรู้ไปแล้ว ที่.แม่ว่าง จ.เชียงใหม่ ยังมีแหล่งผจญภัย ให้เราได้ร่วมทดสอบกิจกรรมกับการ “ล่องแพไม้ไผ่” เสน่ห์แหล่งสายน้ำของอำเภอแม่วาง กิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ล่องแพชมช้าง ชมธรรมชาติ หรือจะเล่นน้ำก็ได้ ลำน้ำแม่วาง ลำน้ำเล็กๆ ที่มีต้นน้ำมาจากดอยอินทนนท์ นอกจากจะเป็นแม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงชาวตำบลแม่วินแล้ว ที่นี่ยังได้กลายเป็นจุดเช็คอิน แหล่งท่องเที่ยวคลายร้อนให้ผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและการผจญภัย ได้มาปักหมุดเที่ยวเมืองเชียงใหม่

วันสุดท้ายของทริปสำรวจเส้นทางกับแหล่งท่องเที่ยวที่ซ่อนตัวอยู่ใน อำเภอดอยสะเก็ต กับหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชุมชนไทลื้อลวงเหนือ เป็นกลุ่มคนไทที่มีถิ่นฐานเดิมในแถบสิบสองปันนาของประเทศจีน มีลักษณ์โดดเด่นด้านภาษา และอาหาร วันนี้เราได้มาทำความรู้จักกับวัฒนธรรมไทลื้อ เริ่มจากการต้อนรับ ที่มีคำน่ารักๆ ว่า “อยู่ดีกินหวาน” ซึ่งเป็นคำแสดงปฏิสันถารและอำนวยอวยพรในเรื่องการกินดีมีสุขไปในตัว ของชาวไทลื้อ การผูกข้อไม้ข้อมือ ผู้เฒ่าผู้แก่จะมัดข้อมือ และอวยพรให้แขกที่มาเยือน ณ ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยไตลื้อ บ้านใบบุญ จุดเริ่มต้นแหล่งการเรียนรู้ ที่นี่จะรวบรวมคนในชุมชน และจัดตั้งเป็นฐานการเรียนรู้ ซึ่งมีอยู่หลายฐาน หลายกิจกรรม อาทิ กิจกรรมแอ่วเฮือนเยือนผญ๋า เราก็จะได้เป็นวิถีการทอผ้า อึดฝ้ายปั้นฝ้าย กิจกรรมทุ่งนาฟ้ากว้าง กิจกรรมที่จะให้เรารู้สึกผจญภัยนิดๆ กับการเดินทาง ไปเก็บไข่เป็ด และผัก มาทำอาหารทานกัน ฐานการทำข้าวแคบ อาหารว่างพื้นบ้านล้านนา คล้ายข้าวเกรียบปากหม้อ แต่การทำข้าวแคบ เป็นการนำเอาแผ่นแป้งไปตากแดดให้แห้ง ทำให้สุกโดยปิ้งหรือทอด นิยมเก็บไว้รับประทานในงานเทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่เมือง งานบวชลูกแก้ว งานปอยหลวง ปิดท้ายการเยือนบ้านลวงเหนือด้วยฐาน “ตุ๊กตาไม้นายโถ” โอทอปห้าดาวบ้านลวงเหนือ เป็นผลงานที่ภาคภูมิใจของ “นายโถ” หรือ นายพีระพงค์ บุญจันทร์ต๊ะ ผลิตและจำหน่าย ตุ๊กตาไม้ ดีไซน์น่ารัก อาทิ ตุ๊กตาไม้รูปสัตว์ 12 ราศี และตุ๊กตาไม้ดีไซน์ ที่เป็นเอกลักษณ์ แบบไทลื้อ และแบบไทยๆ ที่มีวางจำหน่ายอยู่ใน KING POWER ต้องบอกว่าชุมชนไตลื้อเมืองลวงเหนือ มีอะไรอีกหลายอย่างให้ได้เข้าไปเรียนรู้ ที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาพักมาอยู่มากิน ใครอยากไปเที่ยวติดต่อได้ที่น้องแหวน 08-6-919-1915

ปิดท้ายเที่ยววันธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา กับร้าน Wabicha Garden (วาบิฉะ สาขาเชียงใหม่) อยู่ห่างจากสุริวงษ์ บุ๊คเซ็นเตอร์เพียง 700 เมตร จากไก่ทอดเที่ยงคืน เพียง 400 เมตร ร้าน Wabicha Garden เป็นคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น ตกแต่งแวดล้อมด้วยสวนญี่ปุ่นเต็มรูปแบบ ใครชอบดื่มชาเขียวญี่ปุ่นแท้ ที่นี่เค้ายกมัทฉะ และขนมมาจากเกียวโต มาให้ฟินถึงที่เชียงใหม่ ชาหอมๆ ที่ทั้งหมดนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมเสริฟในรูปแบบ สวยงามดูมีมิติในการจัดวาง เพื่อให้ทุกท่านได้มีโอกาสดื่มด่ำกับสุนทรีของการดื่มชาเสมือนได้ไปญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว ใครมาเชียงใหม่ แวะมาชิมชา และขนมอร่อยๆ ได้ที่ร้าน Wabicha Garden คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น เป็นทริปเที่ยวฤดูฝน วันธรรมดา ชุ่มฉ่ำใจ ไร้ผู้คน แบบ Cool Cool…