เมื่อการท่องเที่ยวเติบโต  จนส่งผลกระทบต่ออ่าวมาหยา เป็นที่ทราบกันดีว่าการเติบโตอย่างมากของนักท่องเที่ยวจีน ที่อาจกลายเป็นความเสี่ยงต่อการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว  และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในหลาย ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีอ่าวมาหยา  อ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ถูกโอบล้อมด้วยหินปูนสีเทา เป็นอีกหนึ่งทะเลไทยสวยติดอันดับโลก  ด้วยความสวยงามของอ่าวมาหยา ทำให้นักท่องเที่ยวจึงแห่กันไปท่องเที่ยวอย่างถล่มทลาย  จนอ่าวมาหยาได้รับผลกระทบจากจำนวนเรือและนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังอ่าวมาหยามีจำนวนมากเกินไป  เกิดเป็นข้อเรียกร้องให้ปิดอ่าวมาหยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.กระบี่ ซึ่งอยู่ในหมู่เกาะพีพี เพื่อทำการฟื้นฟูปะการังในอ่าวให้กลับมามีชีวิต

อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จึงประกาศปิดอ่าวมาหยา เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทั้งทางบกและทางทะเล ในช่วงฤดูมรสุม เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน -30 กันยายน 2561 ห้ามกิจกรรมท่องเที่ยวโดยเด็ดขาด แต่อนุญาตให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวนำเรือมาลอยลำนอกบริเวณทุ่นไข่ปลา ที่กั้นแนวเขตห้ามเข้า หลังจากนั้นจะมีการก่อสร้างสะพานเทียบเรือและทางเดินบริเวณอ่าวโล๊ะสะมะ และจะดำเนินการปิดเรือไม่ให้วิ่งมาบริเวณหน้าอ่าวมาหยาอย่างถาวร โดยให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวอ่าวมาหยาผ่านทางอ่าวโล๊ะสะมะได้เท่านั้น

พร้อมกันนี้ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำโดยท่านจงคล้าย รองอธิบดีกรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คุณทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ คุณสุพจน์ เพริศพริ้ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรธรรมราช) และคุณวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตนารา-หมู่เกาะพีพี พาสื่อมวลชนลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และอ่าวมาหยา จังหวัดกระบี่  เพื่อตรวจสอบพื้นที่ และ พิจารณา แก้ไขปัญหาผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ จัดทำแผนเพื่อทำการฟื้นฟูอ่าวมาหยาช่วง 4 เดือน ที่ทำการปิดอ่าว  ทั้งทางบก  และในทางทะเล เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รักษาระบบนิเวศ  ลดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับพื้นที่  ซึ่งที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อวัน 3-4  พันคน จากการศึกษาพื้นที่สามารถรองรับได้เพียง 2,000 คนต่อวัน  และ อ่าวมาหยาจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวนำรองซื้อตั๋วล่วงหน้า  เพื่อเข้ามาท่องเที่ยวอ่าวมาหยา ซึ่งจะทำให้ควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวได้  และอาจจะพัฒนาได้ใช้กับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ของอุทยานแห่งชาติในอนาคตต่อไป

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ จัดโครงการปลูกปะการัง และดึงกลุ่มชุมชนในพื้นที่ หมู่เกาะพีพี ให้มามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ เพราะชุมชนได้รับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นการร่วมมือกันหลายภาคส่วน  เพื่อให้อ่าวมาหยากลับมาสวยงามอย่างหยั่งยืนในสายตาชาวโลกอีกครั้ง