บทความนี้มาจาก Camerart Magazine ฉบับ 248/2018 May

ประวัติศาสตร์แห่งความทรงจำที่ส่งต่อสู่คนรุ่นใหม่
Photo by : สุมาลี ไสรัตน์

ความงดงามของพระราชวังในสถาปัตยกรรม จึงทำให้รู้สึกได้ถึงความสงบ, ร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อน อีกทั้งยังได้ตามรอยเสด็จที่ประทับแรมของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์
Photo by : วรวุฒิ ขันทอง

Photo by : จิราภรณ์ จงสมจิตต์

ความสวยงามของธรรมชาติใต้ทะเล แม้ภาพถ่ายไม่สามารถเก็บความงามได้ทั้งหมด แต่ก็ทำให้เราระลึกถึงได้สม่ำเสมอ
Photo by : วิรินธร เศรษฐบุตร

ทะเลอันดามันมีความใสและสงบอยู่มาก ความอุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเลก็ยังมีให้เห็นในแต่ละเกาะ
Photo by : อรสา แสนทวีสุข

ไทย-พม่า : ไกลคือใกล้
Photo by : สรมย์พร จิตตะวณิช

เรือลำน้อยในท้องทะเลที่กว้างใหญ่..แต่สร้างความประทับใจใหญ่เท่าทะเล
Photo by : เอื้อมเดือน กิจสกุล

“ภูเขา ทะเล และ AIS” ความแตกต่างที่มาเจอกันอย่างลงตัว สิ่งที่ธรรมชาติสรรสร้างและมนุษย์สร้างสรรค์ ดุลภาพความทรงจำนี้ที่สมบูรณ์
Photo by : วิริย์ธารา เดชฤดี

เอไอเอสทริป เปิดประเดิมต้นปีด้วยทริปส่งความสุขให้กับลูกค้าเอไอเอส ด้วยทริป “มหัศจรรย์ทะเลใต้” จังหวัดระนอง พาลูกค้าร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ 3 วัน 2 คืน กับเมืองรอง เมืองที่ต้องห้ามพลาด หนึ่งในจังหวัดที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยโปรโมทเชิญชวน 

เมืองระนองได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมือง “ฝนแปดแดดสี่” ด้วยเป็นจังหวัดที่มีฝนตกชุกที่สุด เนื่องจากอยู่ทางด้านตะวันตกของประเทศ และติดกับทะเลอันดามัน จึงได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ธันวาคม และฤดูร้อน เริ่ม มกราคม-เมษายน เลยเป็นที่มาของเมือง “ฝนแปดแดดสี่” และครั้งนี้ เอไอเอส จะพาเราไปสัมผัสเมือง “ฝนแปดแดดสี่” หรืออีกชื่อ คือ เมืองแร่นอง คำว่า ระนอง เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า แร่นอง เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดระนองมีแร่อยู่มากมาย

ทริปนี้ออกเดินทางกันแต่เช้า นัดหมายกันที่สนามบินดอนเมือง เพื่อเดินทางไปสู่จังหวัดระนอง ด้วยสายการบินนกแอร์ ซึ่งที่ผ่านมา เป็นสายการบินเดียว ที่มีเที่ยวบินมาลงจังหวัดระนองปัจจุบันมีสายการบินแอร์เอเชีย อีกหนึ่งสายการบิน ให้ได้ใช้บริการจากสนามบินดอนเมืองเพียงชั่วโมงกว่าๆ เราก็เดินทางมาถึงจังหวัดระนอง กับวันที่ท้องฟ้าสดใสเหมาะกับการมาเที่ยวทะเล ออกจากสนามบินปุ๊บรถบัสสุด VIP สั่งตรงมาจากกรุงเทพฯ ก็มารอรับคณะอยู่แล้ว มุ่งหน้าสู่ร้านอาหารเคียงเล เป็นอาหารซีฟู๊ด กับหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล อาหารพื้นเมืองทางใต้ หรือจะเป็นอาหารพื้นเมืองของทางพม่าจากฝั่งจังหวัดเกาะสอง ทางร้านก็มีให้เลือกทาน พร้อมนั่งชมวิวที่มองเห็นเกาะสองของพม่าได้อย่างชัดเจน อิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนูที่เอไอเอสจัดมาให้ ยังเสริฟความรู้ด้านการถ่ายภาพให้กับผู้ร่วมทริปทุกๆ ท่าน ไม่ว่าจะกล้องถ่ายภาพ หรือโทรศัพท์มือถือ ก็สามารถเรียนรู้เรื่องการถ่ายภาพ เพื่อทริปนี้ทุกท่านจะได้เก็บความประทับใจเป็นภาพถ่ายที่สวยงามแบบได้คุณภาพ จากทีมวิทยากร CAMERART MAGAZINE ที่จะมาดูแลให้ความรู้ด้านการถ่ายภาพตลอดทั้งทริป

เรียนรู้ภาคทฤษฏีกันไปแล้ว ออกสนามภาพถ่ายภาพกับจุดท่องเที่ยวแห่งแรก พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) วังงามกลางเมืองระนองตั้งอยู่บริเวณเชิงเขารัตนรังสรรค์ (ใกล้ศาลากลางจังหวัดระนอง) เป็นพระราชวังที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์การเสด็จประทับแรมจังหวัดระนองของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ชมความงดงามของสถาปัตยกรรม พระราชวังรัตนรังสรรค์ กันพอสมควร เอไอเอสเอาใจคนรักสุขภาพ พาไปแช่น้ำแร่ที่ “สวนรักษะวาริน” ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นออนเซ็นเมืองไทย ด้วยความที่จังหวัดระนอง คือ ดินแดนแห่งน้ำพุร้อน ปลายทางที่คนรักสุขภาพต้องชื่นชอบ 

สวนรักษะวาริน เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์บริการแล้วว่า ประกอบด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ และไม่มีสารกำมะถันเจือปน ด้วยอุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส จึงทำให้น้ำแร่ร้อนจากที่นี่มีประโยชน์ ในการบำบัดรักษาสุขภาพ

ผ่อนคลายกับการออนเซ็นในแบบฉบับเมืองไทยกันแล้ว ปิดท้ายค่ำคืนแรกสุดพิเศษดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดคลาสสิค ร่วมล่องเรือโบราณที่มีอายุร้อยกว่าปี ในแบบฉบับ Unseen  ชมพระอาทิตย์อัสดงทะเลทองคำ พร้อมย้อนวันวานกับการแต่งตัวสไตล์ย้อนยุค ให้มาได้ถ่ายภาพสุดชิค แล้วมาดินเนอร์กับรายการอาหาร เมนูสุดพิเศษของทริปนี้ : ข้าวมันลอกอย่อ และลอหมี่ปู (อาหารโบราณระนอง) ขนมน้ำหอม (ขนมโบราณระนอง) และอาหารทะเลสดๆ จากทะเล ปิดท้ายค่ำคืนแรกกับการร่วมขอพรอันศักดิ์สิทธิ์ กับการลอยพรกพร้าว ที่เป็นประเพณีโบราณของเมืองระนอง

วันที่สอง ของการเดินทาง ได้เวลาออกไปตามหาหัวใจมรกต กับท้องฟ้าสีคราม ที่ทะเลพม่า แต่ต้องทำเอกสารตรวจคนเข้าเมืองให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพราะเอไอเอสจัดการให้หมด เกาะแรกที่เราจะได้ไปเยือน คือ เกาะฮอร์สชู เป็น 1 ใน 4  เกาะ ของพม่าที่มาแรงสุดตอนนี้ เกาะฮอร์สชู หรือ อีกชื่อภาษาไทยเราว่า “เกาะเกือกม้า” มีชายหาดโค้งยาวโอบล้อมภูเขาหินปูนดูคล้ายๆ กับเกือกม้า จึงเป็นที่มาของ ชื่อเกาะฮอร์สชู (Horse Shoe) นั่นเอง นอกจากความสวยงามของชายหาดสีขาว และน้ำทะเลที่ใสสะอาดแล้วนั้น กิจกรรมหลักๆ ก็ต้องเป็นการดำน้ำดูโลกใต้ท้องทะเล

หลังจากดำน้ำกันจนเหนื่อยได้เวลาไปหลบร้อน แล้วเราก็ไปตกหลุมรักความงดงามของ เกาะตาฟุ๊ก เป็นเกาะที่สวยงามมากอีกเกาะหนึ่งของพม่า ทรายที่ขาวละเอียดเหมือนผงแป้งน้ำทะเลใสสะอาด เกาะตาฟุ๊ก ยังมีที่พักไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะมาค้างแรม ครั้งนี้เราไม่ได้มาพัก แต่เอไอเอสจัดแม่ครัวมาจากฝั่งเพื่อมาปรุงอาหารสดใหม่แบบร้อนๆ กับหลากหลายเมนูกับวิวหลักล้านของเกาะตาฟุ๊ก เรียกว่าไม่มีอยู่ในโปรแกรมทัวร์ปกติทั่วไปถ้าซื้อทัวร์มาเองแต่เอไอเอสจัดให้ลูกค้า แบบ  Exclusive จริงๆแถมตบท้ายด้วยไอศกรีม ดับร้อน ก่อนจะได้เวลาออกไปตามหาหัวใจมรกต

ออกตามหา หัวใจมรกต เกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนี้ และก็เดินทางมายังเกาะสุดท้ายที่ เกาะย่านเชือก สวรรค์ของนักดำน้ำอยู่ที่เกาะแห่งนี้

เกาะย่านเชือก หรือภาษาพม่าเรียกว่าเกาะซาเดทจี (Zedetkyi Island) เกาะสวยที่สุดในทะเลพม่า ความพิเศษตรงที่จะมีความหลากหลายทางธรรมชาติใต้ท้องทะเลมากกว่าเกาะอื่น ไม่ว่าจะเป็นปะการังหลากหลายชนิดเราแค่ก้มหน้าลงทะเล ก็จะเจอกับสีสันที่ไม่ซ้ำกัน อีกทั้งฝูงปลาที่เกาะนี้ก็มีหลากหลายชนิด จนได้รับขนานนามว่าเป็นเกาะที่มีทุ่งปะการังที่ใหญ่ที่สุด และสวยที่สุดกว่าทุกๆ เกาะ ของพม่าเลยทีเดียว เป็นการปิดท้ายทริปดำน้ำที่ทำให้ทุกคนอิ่มเอมไปกับสีสันของโลกใต้ท้องทะเล

วันสุดท้าย ก่อนเดินทางกลับแวะเก็บภาพที่ ภูเขาหญ้า เป็นภูเขาหัวโล้น อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองระนอง จนอยู่ในคำขวัญของเมืองระนอง ความมหัศจรรย์ของภูเขาหญ้าอยู่ตรงที่ภูเขาลูกนี้เป็นภูเขาหัวโล้นตามธรรมชาติ ไม่ได้เกิดจากการไปตัดต้นไม้จนโล้น และแนวต้นหญ้าที่ขึ้นเสมอกันราวกับมีคนมาปลูกไว้ ด้วยขนาดไม่สูงสามารถเดินขึ้นไปได้ เนินเขาแต่ละลูกมีทางเดินเชื่อมถึงกัน เมื่อขึ้นไปอยู่ด้านบนจะชมทิวทัศน์ได้โดยรอบ ในหน้าฝนภูเขาหญ้าจะเป็นสีเขียว แต่ช่วงที่เราไปเป็นช่วงหน้าร้อน หญ้าจึงเป็นสีน้ำตาล เอไอเอสจึงจัดรถ โพถ้อง ชื่อเรียกทางจังหวัดภูเก็ต แต่ชาวระนองเรียกว่า รถสองแถวไม้ มาสร้างสีสันให้กับภูเขาหญ้า ได้โพสท่าเก๋ๆ ก่อนได้เวลาเหินฟ้ากลับมา พร้อมความทรงจำสุดพิเศษ กับประสบการณ์ดีๆ ที่เอไอเอส มอบให้