เรื่อง+ภาพ : Sompoch Tangthai

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 170/2011 November

ในเรื่องของการถ่ายภาพแล้ว แสงและเงานับว่าเป็นสิ่งที่เราจะต้องพบเจออยู่เสมอ ไม่มีภาพไหนที่เราจะไม่อาศัยแสงในการถ่ายภาพ และเมื่อมีแสง ก็ย่อมที่จะเกิดเงาขึ้นตามมา จนมีประโยคที่ช่างภาพมักจะพูดกันเสมอว่า “One light one shadows มีหนึ่งแสงก็ต้องมีหนึ่งเงา” และในหลายๆ ครั้งที่เราพบว่าเงามักจะเป็นอุปสรรคในภาพของเรา โดยเฉพาะในการถ่ายภาพบุคคล เงามืดบนใบหน้าทำให้ตัวแบบดูไม่สวยใช่ไหมครับ แต่สำหรับภาพถ่ายแนวศิลปะแล้วนั้น เชื่อไหมครับว่าเงานี่แหละ ที่สร้างสรรค์ภาพได้ไม่น้อยเลยทีเดียว สิ่งสำคัญที่จะกำหนดเงาต่างๆ ให้เป็นแบบใดได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับ วัตถุ ทิศทางแสง และความเข้มของแสง นั่นเอง เรามาดูกันว่า เราสามารถสร้างสรรค์อะไรจากเงาได้บ้าง

เงาตกทอด Cast Shadow

เงาตกทอดจะมีรูปร่าง ลักษณะตามวัตถุนั้นๆ แต่จะมีความบิดเบือนได้จากทิศทางแสง ยิ่งทิศทางแสงทำองศาที่แคบกับวัตถุ เงาตกทอดก็จะยืดยาว ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นเวลากลางวัน ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับพื้น เงาก็จะมีขนาดสั้น แต่ถ้าเป็นแสงในช่วงเวลาเย็นของวัน เรามักจะเห็นเงาของคนที่เดินผ่านไปมาบนถนน รวมทั้งเงาของเสาไฟ เป็นเงาที่ทอดแนวยาว เราจะมองเห็นเงาได้ชัดมากน้อยเพียงใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าสภาพแสงในขณะนั้น มีความเข้มเพียงใด ความเข้มมากก็จะเห็นเงาที่ชัดเจนมากขึ้น สังเกตได้จากวันที่ฟ้าสดใส เราจะเห็นเงาตกทอดนี้ได้ชัดเจน กลับกันในวันที่ฟ้าปิดสภาพแสงไม่ดี เราจะไม่ค่อยเห็นเงาตกทอดชัดเจนนัก

เงาสะท้อน Reflection

เงาสะท้อนจะต้องมีพื้นผิวที่สามารถสะท้อนเงาที่ตกลงไปได้ เช่น น้ำ หรือวัตถุที่มีพื้นผิวเรียบ ในแอ่งน้ำขังหลังฝนตก หรือกระจกที่สะท้อนภาพ จะมีเงาสะท้อนของวัตถุที่หลากหลายปรากฏอยู่ ในบางครั้งอาจจะไม่จำเป็นที่เงาสะท้อนนั้นจะต้องเรียบแบน ลวดลายและการบิดเบือนที่เกิดจากพื้นผิวที่สะท้อนนั้นก็ให้ความน่าสนใจในภาพได้ไม่ยาก ลองค่อยๆ มองหามุมสำหรับถ่ายภาพในหลายๆ มุมดู

รูปร่างเงามืดที่เกิดจากทิศทางแสงหลัง Silhouette of backlight

ภาพ Silhouette ที่แสดงให้เห็นเพียงเงาดำของวัตถุ เป็นภาพที่มีความน่าสนใจอยู่เสมอ ภาพ Silhouette โดยมากเรามักจะถ่ายในช่วงเวลาเช้าหรือเย็น เพื่อจะได้มีสีสันจากท้องฟ้า และลวดลายจากก้อนเมฆ มาช่วยทำให้ภาพมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น และด้วยการที่แสงในภาพแบบนี้จะมีทิศทางแสงที่มาจากด้านหลัง การถ่ายภาพแนะนำว่าควรวัดแสงที่บริเวณท้องฟ้าที่มีสีสันสวยงามเหล่านั้น ซึ่งเป็นจุดวัดแสงที่ง่ายที่สุดและทำให้ภาพที่ได้ไม่เป็นที่ผิดหวัง อย่าไปวัดแสงที่ตัวแบบ หรือที่จุดสว่างในภาพเช่นดวงอาทิตย์โดยตรง

รูปร่างเงาที่เกิดจากวัตถุ Shadow of the object

เงาวัตถุต่างๆ จะมีรูปร่างที่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงเมื่อทิศทางของแสงนั้นเปลี่ยนไป เช่นแสงเฉียงทำองศาที่ต่ำกับวัตถุ ก็จะปรากฏเงาที่ทอดยาวกว่าวัตถุจริง หรือเมื่อเงาที่ตกลงวัตถุรูปร่างต่างๆ ก็ทำให้เงานั้นมีรูปร่างที่เปลี่ยนไป เช่นเงาของแหวนวงกลมเมื่อวางบนกึ่งกลางหน้าสมุด เงาที่ตกทอดจะกลายเป็นรูปหัวใจได้ หรือกำแพงที่มีโครงสร้างหลายระดับ ก็ทำให้เงาที่ตกลงไปมีรูปร่างที่แปลกตาได้เช่นกัน อันนี้ต้องอาศัยความช่างสังเกต มองดูวัตถุรอบๆ ตัวว่า เกิดเงาเป็นรูปร่างแบบใดบ้าง อย่างเงาของหูแก้วกาแฟ บางมุมก็น่าสนใจ

เราสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายจากเงาได้อีกมากมาย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของเราว่า มองเห็นอะไร หรือเลือกจับภาพในมุมมอง หรือสภาพแสงแบบใด ที่จะทำให้ได้เงาอย่างที่ต้องการ การมองหาเงาที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว ก็นับว่าเป็นการฝึกสายตาและมุมมองทางด้านศิลปะให้กับเราได้เป็นอย่างดีจริงไหมครับ…