เรื่อง+ภาพ : ApochTophy’s
บทความนี้มาจาก Camerart Magazine ฉบับ 241/2017 October
ในการจัดองค์ประกอบภาพถ่ายนั้นมีกฎในการจัดองค์ประกอบอยู่หลายกฎที่เราควรทำความเข้าใจ เพื่อการวางจุดสนใจในการถ่ายภาพ (Point of Interest) หรือนำไปเลือกใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานให้ดูน่าสนใจเพิ่มขึ้น พอเราพูดถึงคำว่า กฎ มักจะทำให้เราคิดว่าเป็นเรื่องที่ยาก ซึ่งแท้จริงแล้ว กฎต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราและไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความตั้งใจของเราเลย ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจในแต่ล่ะกฎที่มีอยู่กันเสียก่อนดีกว่านะครับ ‘กฎ’ ที่เราคิดว่าเป็นเรื่องยากนั้นมีอะไรที่น่าสนใจอยู่บ้าง
Rule of Thirds กฎสามส่วน
กฎสามส่วนเป็นกฎในการจักองค์ประกอบภาพถ่ายที่รู้จักและนิยมใช้กันเป็นอันมาก เป็นพื้นฐานของการถ่ายภาพที่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นกับการจัดองค์ประกอบ และยังนำมาใช้ได้ตลอดเวลา หลักของกฎสามส่วนก็คือการแบ่งพื้นที่ภาพออกเป็นสามส่วน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในแนวตั้งหรือแนวนอน โดยเราสามารถใช้เส้นแบ่งนี้ในการวางส่วนของเส้นขอบฟ้า หรือเส้นตัดส่วนพื้นหรือน้ำ หรือส่วนของงานสถาปัตยกรรม
นอกจากนี้เมื่อแบ่งพื้นที่เป็นสามส่วนทั้งแนวตั้งและแนวนอนแล้วพื้นที่ในภาพจะถูกแบ่งเป็น 9 พื้นที่ เส้นที่แบ่งพื้นที่นี้จะมีจุดตัดอยู่ 4 จุดใช้เป็นจุดวางจุดสนใจในภาพ (จุดตัดเก้าช่อง) ได้อีกด้วยซึ่งกฎสามส่วนและจุดตัดเก้าช่องนี้เป็นเหมือนพื้นฐานเบื้องต้นของหลักการจัดองค์ประกอบภาพถ่าย ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในการใช้งานกับภาพบางอย่าง
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2017/10/Composition_ep3_the-rules_01.jpg)
Rule of Thirds
Golden ratio สัดส่วนทอง
สัดส่วนทองเป็นกฎในการสร้างสรรค์รูปทรงมาตั้งแต่สมัยกรีก เป็นกฎที่ใช้ในการวาดภาพและการการออกแบบรวมถึงงานศิลปะหลายแขนง เป็นกฎที่จัดการพื้นที่ได้ลงตัวที่สุดและมีรูปแบบที่หลากหลายแม้แต่การถ่ายภาพเองก็เช่นกันมีสัดส่วนทองนี้เรามักนำมาใช้ในการถ่ายภาพอยู่ 2 รูปแบบคือ Golden Spiral และ Golden Triangle
สัดส่วนทองแบบ Golden Spiral และ Golden Triangle นั้นนอกจากจะวางวัตถุหลักของภาพลงไปที่จุดตัดแล้วนั้น การวางเส้นนำสายตา หรือเส้นสายต่างๆ ในภาพตามแนวเส้นโค้งหรือเส้นทแยงมุมได้อีกด้วย ซึ่งการวางวัตถุในภาพให้อยู่ในตำแหน่งจุดตัดต่างๆ และในตำแหน่งของเส้นต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสัดส่วนทอง มักจะให้ความดึงดูสายตาของผู้ชมภาพ และทำให้การจัดองค์ประกอบภาพดูน่าสนใจยิ่งขึ้น
(รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องสัดส่วนทองนั้นสามารถหาอ่านได้ใน www.camerartmagazine.com เรื่อง Composition Ep.2 Principles of Composition ตอนที่ 3 สัดส่วน Proportion)
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2017/10/Composition_ep3_the-rules_02.jpg)
golden ratio scheme
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2017/10/Composition_ep3_the-rules_05.jpg)
เปรียบเทียบระหว่าง Rule of Thirds กับ Dynamic Symmetry
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2017/10/Composition_ep3_the-rules_03.jpg)
Golden ratio
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2017/10/Composition_ep3_the-rules_04.jpg)
Golden Triangle
Dynamic Symmetry
Dynamic Symmetry เรียกอีกอย่างว่า golden section system of design เป็นหลักการออกแบบเชิงเรขาคณิตที่ใช้มาเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว หลักการของ Dynamic Symmetry ก็คือการจัดวางองค์ประกอบภาพให้สมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นกฎที่ศิลปินนักวาดภาพนิยมใช้อีกกฎหนึ่ง โดยเฉพาะงานที่มีความสลับซับซ้อน
Dynamic Symmetry เป็นการรวมเส้นตั้งเส้นนอน และเส้นทแยงมุม มาใช้ในการจัดวางองค์ประกอบในพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า เหมาะสำหรับการจัดวางองค์ประกอบที่มีจำนวนวัตถุมากๆ มีความหลากหลายในเรื่องตำแหน่งที่ซับซ้อน โดยมุ่งหวังให้เกิดจุดสนใจที่โดดเด่นและได้สมดุลของภาพโดยรวมไปพร้อมกัน
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2017/10/Composition_ep3_the-rules_06.jpg)
Dynamic Symmetry
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2017/10/Composition_ep3_the-rules_07.jpg)
Dynamic Symmetry
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2017/10/Composition_ep3_the-rules_08.jpg)
Dynamic Symmetry
Figure – ground relationship ความสัมพันธ์ระหว่างรูปกับพื้น
รูป (Figure) ในที่นี้ก็คือ รูปร่างและรูปทรง หมายถึงส่วนที่เป็นจุดเด่น หรือเนื้อหาที่สำคัญในภาพ พื้น (Ground) ก็คือพื้นที่แวดล้อม ที่ไม่ใช่ รูป การมองเห็นของมนุษย์โดยพื้นฐานนั้นจะพยายามแยกสิ่งที่สนใจหรือสิ่งที่เป็นรูปร่าง รูปทรงออกมาก่อน แล้วในรูปร่างรูปทรงที่แยกออกมานั้นก็จะแยกตำแหน่งหน้าและหลังออกไปอีก ในที่สุดก็จะพยายามแยกรูปทั้งหมดออกจากพื้น โดยพื้นจะเป็นสิ่งที่อยู่หลังสุด ทำให้บางครั้งมีการเรียกส่วนที่เป็นพื้น (Ground) นี้ว่า พื้นหลัง (Background) ซึ่งก็ไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะในองค์ประกอบนามธรรม ที่มีลักษณะ แบนราบเป็น 2 มิติ เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าส่วนใดคือพื้นหน้า (Foreground) หรือพื้นหลัง (Background) จะเป็นสิ่งที่อยู่ข้างเคียงกัน (side by Side) เท่านั้น อาจจะยกเว้นเป็นบางกรณีถ้าภาพนั้นเป็นภาพที่ส่งผลต่อการมองเห็นของสายตา
figure-ground relationship คือการคำนึงถึงความสัมพันธ์ในการจัดวางองค์ประกอบของสิ่งที่เราจะถ่าย (subject) ให้อยู่บนพื้น, พื้นหลัง หรือฉากหลัง ที่ไม่ส่งผลให้วัตถุนั้นกลืนหรือจมไปกับพื้นนั้นนั่นเอง หลักการมีอยู่ว่า การเลือกจัดวางให้ฉากหลัง หรือพื้นหลังไม่แย่งความเด่นไปกว่าวัตถุหลัก (รูป) ที่เราจะถ่าย จึงทำให้เราต้องคอยคิดอยู่ตลอดเวลาว่าพื้นหลังแบบไหนที่จะเหมาะสมกับวัตถุที่เราจะถ่าย นอกจากนี้แล้ว การใช้ Figure-Ground ในบางครั้งจะเป็นการเล่นกับไอเดียระหว่างวัตถุและพื้นหลังของศิลปินด้วย ที่พบโดยมากจะนิยมในภาพประเภทสตรีทโฟโต้กราฟฟี่
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2017/10/Composition_ep3_the-rules_09.jpg)
figure-ground relationship
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2017/10/Composition_ep3_the-rules_10.jpg)
figure-ground relationship
Greatest area of contrast บริเวณที่มีความเปรียบต่างสูงสุด
กฎนี้เป็นเรื่องของการเลือกพื้นที่ ที่ดีที่สุด โดดเด่นที่สุด เพื่อทำให้วัตถุที่เราจะถ่ายได้รับความสำคัญที่สุด ซึ่งมาจากทฤษฎีว่าด้วยความสนใจของสายตามนุษย์ โดยปกติแล้วสายตามนุษย์มักจะถูกดึงความสนใจไปยังบริเวณที่มีความเปรียบต่างสูง (high contrast) ดังนั้นถ้าเราอยากให้วัตถุหลักมีความโดดเด่นน่าสนใจ เราควรเลือกจัดวางวัตถุหลักของเราในบริเวณที่มีความเปรียบต่างสูงสุด บริเวณนั้นจึงเรียกว่า Greatest area of contrast นั่นเอง
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2017/10/Composition_ep3_the-rules_11.jpg)
greatest area of contrast
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2017/10/Composition_ep3_the-rules_12.jpg)
greatest area of contrast
ถ้าใครเคยอ่านนิยายกำลังภายใน หรือดูหนังจีนมาบ้างจะเห็นว่ากว่าจอมยุทธ์จะเรียนรู้เพลงกระบี่สำเร็จนั้น บางทีต้องฝ่าด่านผ่านการฝึกฝนมามากมาย จากการฟันกระบี่ธรรมดา ต้องเรียนรู้ท่วงท่า การพลิกมือ การขยับร่างกาย ไปจนถึงเคล็ดลับวิชาต่างๆ จนบางคนท้อ เลิกจับกระบี่ไปก็มี หมายความว่าฝึกไม่สำเร็จนั่นเอง แต่บางคนพอผ่านการฝึกจนสำเร็จวิชาแล้วนั้น การขยับร่างกายที่เคยฝึก ท่วงท่าต่างๆ ก็กลับเป็นไปตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องระวังท่วงท่าใดๆ เพราะเมื่อเข้าใจในเคล็ดวิชาแล้ว ผ่านการฝึกซ้ำๆ มามากพอแล้ว การขยับตัวก็เป็นไปได้เองโดยอัตโนมัติ
การจัดองค์ประกอบภาพก็เช่นกันครับ เมื่อเริ่มหัดถ่ายภาพใหม่ๆ เราอาจจะยังไม่รู้ว่าจะวางองค์ประกอบภาพแบบไหน พอเริ่มเรียนรู้มากขึ้นอาจจะกังวลในเรื่องหลักเกณฑ์ต่างๆ จนพาให้ถ่ายภาพไม่สนุกแต่เมื่อเราเข้าใจกฎเกณฑ์ต่างๆ เป็นอย่างดีแล้ว เมื่อเราถ่ายภาพการวางมุมต่างๆ ก็จะเป็นไปเองโดยที่เราไม่ต้องคอยระวังเรื่องกฎต่างๆ แต่อย่างใด และถ้าเราเข้าใจกฎแล้วเราก็จะรู้ได้ว่า อะไร คือการแหกกฎเหล่านั้น และผมอยากจะบอกคุณไว้ว่า ไม่ใช่กฎที่ต้องการจะถูกแหก แต่มันเป็นความรู้ที่คุณสามารถนำไปใช้กับงานศิลปะภาพถ่ายของคุณได้ทุกครั้งที่คุณต้องการ…