สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผยเทคนิคการถ่ายภาพดวงจันทร์ในมุมมองของภาพลวงตา เชิญชวนผู้สนใจตั้งกล้องเก็บภาพ “ซูเปอร์ฟูลมูน” คืนดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี 2 มกราคม 2561

 

ภาพถ่าย Super Full Moon ด้วยเทคนิค Moon Illusion (ภาพ : ศุภฤกษ์ คฤหานนท์)

นายศุภฤกษ์  คฤหานนท์ หัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สดร. ผู้เชี่ยวชาญการถ่ายภาพดาราศาสตร์ เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 2 มกราคมนี้ ดวงจันทร์เต็มดวงจะปรากฏในตำแหน่งใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี หรือเรียกว่า “ซูเปอร์ฟูลมูน” คืนดังกล่าวดวงจันทร์จะมีขนาดปรากฏใหญ่และสว่างกว่าปกติ  สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำทางทิศตะวันออกในทุกภูมิภาคของประเทศ จึงอยากเชิญชวนผู้สนใจร่วมเก็บภาพความสวยงามของดวงจันทร์เต็มดวงในคืนดังกล่าวด้วยเทคนิคการถ่ายภาพดวงจันทร์ในมุมมองของภาพลวงตา หรือ “Moon Illusion”

ภาพดวงจันทร์เต็มดวงที่ใช้วัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นวัตถุเปรียบเทียบ (ภาพ : ศุภฤกษ์ คฤหานนท์)

“คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าดวงจันทร์เมื่ออยู่บริเวณขอบฟ้าจะมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าอยู่กลางท้องฟ้า แท้จริงแล้วการมองเห็นดวงจันทร์มีขนาดใหญ่เมื่อปรากฏบริเวณใกล้ขอบฟ้าเป็นเพียงภาพลวงตา เนื่องจากบริเวณขอบฟ้ามีวัตถุเปรียบเทียบ แต่ดวงจันทร์บริเวณกลางท้องฟ้าไม่มีวัตถุเปรียบเทียบ ทำให้รู้สึกว่าดวงจันทร์ที่ปรากฏกลางท้องฟ้ามีขนาดเล็ก” นายศุภฤกษ์กล่าว
สำหรับวิธีการถ่ายภาพ “Moon Illusion” หรือ “ภาพลวงตาดวงจันทร์” เป็นการถ่ายภาพขณะดวงจันทร์อยู่ใกล้ขอบฟ้าหรือใกล้กับวัตถุ เช่น ต้นไม้ คน อาคาร หรือสิ่งก่อสร้างต่างๆ มีเทคนิคสำคัญ 5 ประการ ดังนี้

ตัวอย่างภาพถ่าย Moon Illusion ในช่วงปรากฏการณ์ Super Full Moon (ภาพจาก Internet)

1. เลือกสถานที่ – ควรเลือกสถานที่ที่มองเห็นดวงจันทร์ทางทิศตะวันออกตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ บริเวณนั้น ควรมองเห็นวัตถุ เช่น คน เจดีย์ บ้าน ต้นไม้ ที่ใช้เป็นวัตถุเปรียบเทียบ ตั้งกล้องให้มีระยะห่างจากวัตถุเปรียบเทียบตั้งแต่ 1 กิโลเมตร ขึ้นไป หรือใช้การวัดระยะเชิงมุมด้วยนิ้วก้อย เพื่อเทียบขนาดวัตถุกับดวงจันทร์ได้ ณ ตำแหน่งที่ถ่ายภาพ ดวงจันทร์จะมีขนาดประมาณ 0.5 องศา หรือมีขนาดใหญ่ไม่เกิน 1 นิ้วก้อยของเราเมื่อเหยียดสุดแขน

การวัดระยะเชิงมุมด้วยนิ้วก้อย

2.เลือกเลนส์เทเลโฟกัส – ช่วงเลนส์ขนาดตั้งแต่ 300 mm. ขึ้นไป เพื่อให้ได้ภาพดวงจันทร์ขนาดใหญ่ เปรียบเทียบกับขนาดของวัตถุบริเวณขอบฟ้า
3.เลือกความเร็วชัตเตอร์ – ควรใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่สัมพันธ์กับช่วงเลนส์ คือความเร็วชัตเตอร์ที่ไม่ช้าจนเกินไปจนทำให้ภาพดวงจันทร์เบลอ เนื่องจากดวงจันทร์จะเคลื่อนที่ขึ้นทางทิศตะวันออกสูงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งใช้ทางยาวโฟกัสสูงมากเท่าไหร่ ก็ต้องเพิ่มความเร็วชัตเตอร์ขึ้นตามด้วยเช่นกัน
4.ปรับโฟกัสวัตถุเปรียบเทียบล่วงหน้า – ควรปรับโฟกัสวัตถุที่เป็นฉากหน้าเปรียบเทียบก่อนดวงจันทร์โผล่พ้นขอบฟ้า เพราะการโฟกัสภาพที่ระยะไกลบริเวณขอบฟ้าที่มีมวลอากาศหนาแน่น จุดโฟกัสจะเคลื่อนไหวตลอดเวลา หากเรารอให้ดวงจันทร์โผล่พ้นขอบฟ้า แล้วค่อยโฟกัสที่ดวงจันทร์ เราอาจพลาดจังหวะดีๆ ในการถ่ายภาพเทียบกับวัตถุบริเวณขอบฟ้าดังกล่าวได้
5.แบล็คการ์ดเทคนิค – การใช้มือบังบริเวณหน้าเลนส์บริเวณขอบภาพ ตำแหน่งของดวงจันทร์เพื่อให้แสงสว่างของดวงจันทร์ลดลง แล้วจึงกดชัตเตอร์ จะช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่มีความสว่างต่างกันไม่มากนัก สามารถนำไปปรับแต่งในโปรแกรม Photoshop โดยการดึง Shadow บริเวณฉากหน้า และลดแสง Highlight ลงได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์อื่นๆ เช่น ฟิลเตอร์ครึ่งซีกมาช่วย

 

 

เทคนิคข้างต้น น่าจะเป็นแนวทางแก่ผู้สนใจถ่ายภาพซูเปอร์ฟูลมูนในคืนวันที่ 2 มกราคม 2561 ให้ได้ภาพดวงจันทร์เต็มดวงกลมโตแบบอลังการได้เป็นอย่างดี จึงขอเชิญชวนนักถ่ายภาพรวมทั้งประชาชนคนไทยร่วมเก็บภาพความสวยงามของดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกในครั้งนี้ และร่วมแชร์ภาพสวย ๆ ได้ที่ www.facebook.com/NARITpage