เรื่อง + ภาพ : นายจักรยาน

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 250/2018 July

ขอพาท่านกลับไปเที่ยวภาคใต้ ท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม ต่อนะครับ ที่แรกที่ผมขอนำท่านไปคือวัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่

วัดถ้ำเสืออยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ไม่ไกลมานัก ประมาณ 5-6 กิโลเมตร ลักษณะโดดเด่นที่เห็นชัดเจนคือ มีภูเขาและมีพระพุทธรูปอยู่บนยอดเขา ซึ่งเป็นจุดชมวิว 360 องศา ที่สวยและอันซีนที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย แต่โดยทั่วไปๆ วัดถ้ำเสือ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านมาช้านาน เป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง คือ หลวงพ่อจำเนียร เจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือ ลักษณะโดยรวมเป็นสวนป่า และมีโพรงถ้ำมากมาย เคยมีเสืออาศัยอยู่จึงกลายเป็นชื่อวัด

จุดชมวิวที่กล่าวถึง ต้องขึ้นบันไดที่มีความชัน ไปถึง 1,237 ขั้น ควรเอาอุปกรณ์ที่จำเป็นขึ้นไปนะครับ เช่น กล้อง เลนส์สองช่วง ซูมไวด์ และซูมเทเล ขาตั้งกล้อง เลนส์มุมกว้างมีความจำเป็นมากกว่า ซูมเทเล หรือเทเลยาว อาจจำเป็นน้อยลงไปว่ามุมกว้าง หรือจะติดพวกเลนส์ถ่ายโพรทเทรท ฟิกส์ สั้นๆ ไปก็ได้ครับ ช่วงเวลาที่เก็บภาพได้สวยงามคือช่วงพระอาทิตย์ขึ้นครับ ผมไปถึงและเริ่มเดินขึ้นไป ประมาณ 04.30 น. กว่าจะขึ้นไปถึงใกล้ๆ 06.00 น. ครับ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่ถ้าตัวเบาๆ ร่างกายแข็งแรง ไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงยอดครับ มีเคล็ดลับจากช่างภาพในท้องถิ่นว่า ถ้าวันไหนฝนตกช่วงบ่ายหรือเย็น วันรุ่งขึ้น ตอนเช้าจะมีทะเลหมอกให้เห็น แต่ผมขึ้นไปไม่มีทะเลหมอกครับ

วัดต่อมาอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชครับ คือวัดพระธาตุน้อย หรือวัดธาตุน้อย เป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญและยังเป็นที่ตั้งของเจดีย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ตั้งขึ้นโดยความประสงค์ของพ่อท่านคล้าย เกจิอาจารย์ที่ชาวใต้เลื่อมใสศรัทธาเชื่อถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวาจาพูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ได้ชื่อว่าเป็นเทวดาเมืองคอน เทพเจ้าแห่งแดนใต้

สิ่งก่อสร้างที่วัดแห่งนี้มีความโดเด่นอยู่สองอย่าง คือ พระเจดีย์พระสารีริกธาตุ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของสรีระสังขารพ่อท่านคล้ายในโลงแก้ว จึงถือว่าเป็นเจดีย์อนุสรณ์สถาน พ่อท่านคล้ายอีกด้วย สรีระสังขารพ่อท่านคล้ายซึ่งว่ากันว่าแข็งเป็นหิน ที่ชาวบ้าน และบุคคลทั่วไปนับถือและศรัทธา ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาสักการบูชากันมาก สิ่งก่อสร้างอีกสิ่งหนึ่งก็คือ พระนอนองค์ใหญ่งดงามโดดเด่นด้วยขนาดที่ใหญ่มาก สีขาวห่มจีวรสีทองเปล่งปลั่ง

สถานที่สำคัญในจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกแห่งหนึ่งคือ ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เป็นศาลาทรงจตุรมุขลักษณะเหมือนกันทั้ง 4 ด้าน จุดสังเกตความแตกต่างด้านหน้าคือมีรูปไก่ยืนอยู่หนึ่งคู่ ลานทักษิณรอบศาลหลักเมืองปูด้วยอิฐบล็อกรูปแปดเหลี่ยม รอบนอกลานทักษิณมีวิหารราย ประดิษฐานพระโพธิสัตว์อยู่ภายใน

สถานที่สุดท้ายสำหรับการท่องเที่ยวครั้งนี้ื บ้านหนังตะลุง อ.สุขาติ ทรัพย์สิน เป็นศิลปินแห่งชาติ ด้านหนังตะลุง และช่างทำรูปหนังตะลุงฝีมือดีเยี่ยมของเมืองนครศรีธรรมราช โดยริเริ่มและสืบทอดวัฒนธรรม การทำตัวหนังตะลุง รวมไปถึงการเชิดหนังตะลุงจนเป็นที่ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ ทั้งยังทำนุบำรุงความเป็นไทย คงใช้เครื่องดนตรีไทยที่เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมของชาติไทย โดยได้รับคัดเลือกให้เป็นศิลปินท้องถิ่น ผู้ซึ่งได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (ไทยแลนด์ทัวริสซึ่มอวอร์ด) ประจำปี 2539 รางวัลดีเด่นประเภท วัฒนธรรมและโบราณสถาน บ้านหนังตะลุงสุชาติเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายตัวหนังตะลุงและ หนังใหญ่ อีกทั้งยัง มีการแสดงในลักษณะสาธิตในบริเวณบ้านหนังตะลุง นอกจากนี้ยังได้แบ่งพื้นที่เพื่อจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดง เครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้าน และพิพิธภัณฑ์หนังตะลุงนานาชาติ

ปัจจุบัน อ.สุชาติ ถึงแก่กรรมแล้ว แต่ยังมีภรรยา และลูกชาย คือ อ.วาที ทรัพย์สิน ทายาทหนังตะลุงคอยสืบสาน ศิลปะโบราณดั้งเดิมสืบต่อมา

ในคราวหน้า ผมยังคงพาเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม ไปในอีกหลายๆ ที่ครับ มีเรื่องราวน่าสนใจอีกมากมาย ที่ผมได้รับความอนุเคราะห์การเดินทางจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยครับ