เรื่อง+ภาพ : นายจักรยาน

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine ฉบับ 246/2018 March

เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จังหวัดลพบุรีได้จัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 31 แล้ว เป็นงานประจำปี 2561 สถานที่จัดงานอยู่บริเวณพระนารายณ์ราชนิเวศ และโบราณสถานที่ใกล้เคียง มีตั้งแต่การจัดแปลงดอกไม้สวยๆ นานาชนิด การจัดแสดงละคร ด้วยการใช้โบราณสถานเป็นเวทีการแสดง ที่สวนนารายณ์นฤมิต จัดเป็นโรงละครในจินตนาการ เป็นเรื่องราวของวิถีชีวิตของคนในยุคสมเด็จพระนารายณ์ การออกแบบการแสดงชมกันแบบ 3 มิติ ที่โดดเด่นชัดเจนอีกอย่างหนึ่งคือการออกแบบเครื่องแต่งกายของนักแสดง มีความงดงามตระการตามาก มีทั้งเครื่องแต่งกายแบบไทยในทุกชนชั้น และยังมีเครื่องแต่งกายของชนต่างชาติ ที่เข้ามาในแผ่นดินพระนารายณ์ ในยุคนั้น มีทั้งสเปน ยุโรป จีน มีให้ชมกันอย่างจุใจเลยทีเดียว

นอกจากนั้น ณ บริเวณเดียวกันนี้ยังจัดแสดงดนตรี ระบำลพบุรี ที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีการแสดงแฟชั่นเครื่องแต่งกายย้อนยุคในสมัยพระนารายณ์ อีกด้วย ผู้แสดงแบบล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียง และข้าราชการชั้นสูงในจังหวัดลพบุรีทั้งสิ้น

ในส่วนอื่นล้วนมีการจัดงานกิจกรรมอย่างน่าสนใจ การจัดแปลงดอกไม้สวยงามนานาชนิด การแสดงอีกหลายเวที และตลาดย้อนยุค ที่มีของรับประทานสไตล์โบราณ ตลาดย้อนยุคนี้ มีการใช้เงินจับจ่ายซื้ออาหาร และสินค้าด้วยเงินพดด้วงเงินโบราณในยุคสมเด็จพระนารายณ์

โบราณสถาน พระราชวังสมเด็จพระนารายณ์ มีมุมที่สวยงามเหมาะกับการถ่ายภาพโพรทเทรทมากมาย และคอนเซปงานนี้คือการใส่ชุดไทยเที่ยวทั่วงาน ผมมีความประทับใจกับผู้คนที่มาเที่ยวงานนี้เป็นอย่างมาก เพราะพร้อมใจกันแต่งชุดไทยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เสื้อผ้าชุดไทยที่ใส่กันมาเที่ยวงาน มีทั้งแบบพื้นๆ ธรรมดา ที่หาเช่า หรือซื้อได้ตามร้านในจังหวัดลพบุรี ซึ่งมีให้เลือกมากมายหลายร้าน นอกจากชุดธรรมดาๆ แล้ว ยังมีชุดที่ดูพิเศษขึ้นไปอีก มีเครื่องประดับครบ ทั้งทัดหู มงกุฎ ชฎา มีอย่างเพียบพร้อม ส่วนเครื่องแต่งกายของผู้ชาย มีไม่แพ้ผู้หญิงครับ เสื้อผ้าของคหบดี ข้าราชการชั้นสูง หรือทหารระดับผู้นำกองทัพ ดูน่าสนใจมากครับ นอกจากนี้ ผมสังเกตเห็น บางหมู่คณะ พร้อมใจกันแต่ง เป็นชาวบ้าน นักรบ ถือมีดดาบ ทั้งชายและหญิง คล้ายๆ ชาวบ้านบางระจัน เดินกันมาเป็นหมู่คณะ น่าชมมากครับ

ในการไปถ่ายภาพครั้งนี้ ผมได้รับเชิญจาก ททท. จังหวัดลพบุรี ในฐานะสื่อมวลชนให้ไปบันทึกภาพ บรรยากาศในงาน เนื่องจากไปถึงเป็นเวลาเย็นที่พระอาทิตย์ตกแล้ว มีแสงธรรมชาติเหลือน้อยเต็มที แต่ก็ทำให้กลบรายละเอียดที่ไม่เรียบร้อยลงไปได้มากครับ ผมติดแฟลชของแคนนอนรุ่น 600 EX-RT นำไปด้วย พร้อมซอฟท์บ๊อกซ์บังหน้าแฟลชเล็กๆ ผมใช้แสงแฟลช ผสมกับแสงธรรมชาติที่เหลือน้อยนิดแต่แสงแฟลช เก็บราบละเอียดได้ดี กลมกลืนอย่างเป็นธรรมชาติ

แฟลชติดกล้องยังมีผลดีอีกอย่างหนึ่งคือ ถ่ายงานช่วงกลางคืนได้ดี แม้บางครั้งต้องยิงแฟลชตรงๆ แต่ก็เก็บรายละเอียดได้ดี บางช่วงเวลาที่ถ่ายร้านค้าในตลาดย้อนยุค บางร้านที่มีหลังคาผ้าสีอ่อน ผมก็จะยิงขึ้นด้านบน ให้แสงชิ่งลงมา ทำให้ภาพนุ่มนวล

ในงานมีไฟประดับถนน ดวงเล็ก มีอยู่ทั่วไป เหมาะกับการถ่ายภาพให้ดวงไฟเป็นโบเก้อย่างมาก ใครที่ติดเลนส์รูรับแสงกว้างไปจะได้เปรียบ ถ่ายภาพไฟดวงเล็กโบเก้ได้เลย ผมใช้แฟลชที่ติดไป ใช้พร้อมติดซอฟท์บอกซ์ เพื่อยิงเป็นแสงหลัก ไฟแฟลชสามารถเปิดรายละเอียดในเงามืดได้เป็นอย่างดี ได้ภาพโพรทเทรทสวยๆ มาพร้อมกับฉากหลังเป็นโบเก้อย่างงดงามครับ

โอกาสหน้าผมคงได้นำเรื่องราวของการท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ มานำเสนออีกนะครับ เพราะผมได้รับเชิญจากสำนัก ททท. ให้เดินทางไปบันทึกภาพอยู่เป็นประจำครับ