เรื่อง+ภาพ : นพดล

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 265/2019 October

การเดินทางท่องเที่ยวนั้น…สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ขยันหาข้อมูลการท่องเที่ยว และจัดการท่องเที่ยวด้วยตนเอง สิ่งที่ได้นั้น ผมอยากบอกว่าเป็นการท่องเที่ยวที่ได้เนื้อได้อรรถรสของการสัมผัสการท่องเที่ยวที่ได้มากกว่า การท่องเที่ยวกับบริษัททัวร์ แต่ก็ต้องบอกว่า เป็นการท่องเที่ยวที่ต้องการหาประสบการณ์ และต้องมีความอดทนกับการท่องเที่ยว ทั้งการหาข้อมูลการท่องเที่ยว การเดินทาง และการหาที่พักที่กิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของภาษาการสื่อสาร แน่นอนว่าคนรุ่นใหม่ๆ สามารถใช้งานกับการสื่อสารทาง Social ช่วยได้มากเลยทีเดียว

แต่สำหรับหลายต่อหลายท่าน ที่ไม่คุ้นกับการที่ต้องเตรียมการทุกอย่างด้วยตนเอง ก็อาจจะต้องเกิดความยุ่งยากมากเช่นกันการเลือกเดินทางท่องเที่ยวกับบริษัททัวร์ที่มีความชำนาญในการเตรียมการ ทั้งการเดินทาง ที่พัก อาหาร แหล่งท่องเที่ยว จึงเป็นวิธีสะดวกในการท่องเที่ยว แต่ก็ต้องทำใจละครับ เพราะการท่องเที่ยวกับทัวร์ เปรียบเทียบไปก็เหมือนกับ “ทัวร์ลูกเป็ด”…. ที่กล่าวเช่นนี้เป็นการเปรียบเทียบนะครับ…เพราะเป็นการท่องเที่ยว ที่ต้องเดินตาม ไกด์ทัวร์ ที่ถือธงนำหน้า…ต้องคอยดูว่านำไปทางไหน แล้วเดินตามกันเป็นพรวน เหมือนลูกเป็ดที่เดินตามแม่เป็ดเลย…555… ซึ่งถ้าเกิดพลัดหลง ก็ต้องคอยตามละครับเพื่อไม่ให้หลุดกับกรุ๊ปทัวร์ เดี่ยวจะหาทางไปต่อไม่ได้

แน่นอนอีกเหมือนกันว่า การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเสพ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และงานศิลปะของแต่ละประเทศนั้น ต้องใช้เวลาในการชมสถานที่และงานต่างๆ การท่องเที่ยวกับทัวร์นั้น มีเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ไหนจะต้องคอยติดตามไกด์ทัวร์ ไหนจะต้องคอยดู คอยฟังคำบรรยาย ยิ่งถ้าจะอยากถ่ายรูปด้วยแล้วดูมันช่างเร่งรีบไปหมด เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมง นับว่าน้อยมากเลยทีเดียว ซึ่งไม่เหมือนกับการมาท่องเที่ยวด้วยตนเองที่สามารถกำหนดเวลาตามความต้องการของตนเองได้ 

ดังนั้น ท่านจะเลือกการเดินทางแบบไหน ก็ตามแต่สะดวกของท่านละครับ แต่…ครั้งนี้ ผมมาเที่ยวด้วยบริการของบริษัททัวร์ ก็ทำใจมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็ได้คิดไว้ล่วงหน้าเหมือนกันว่า จะพยายามเก็บข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยว และถ่ายภาพมาฝากกับทุกท่านครับ…

 

พระราชวังฤดูร้อน (พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ)

ถ้าคุณตั้งใจจะไปท่องเที่ยวประเทศรัสเซีย และมาเที่ยวยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดการไปท่องเที่ยว คือ พระราชวังฤดูร้อน หรือ ที่เรียกว่า พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ เป็นพระราชวังที่สวยงาม ที่ตั้งอยู่แถบชานเมือง ริมฝั่งทะเลบอลติก เซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก การเข้าชมพระราชวังนี้ ขอแนะนำว่า ควรไปเช้าหน่อย ผู้คนมาชมกันค่อนข้างมากมาย ต้องเข้าแถวทั้งการซื้อบัตรเข้าชม และการต่อแถวเข้าไปในพระราชวังเลยทีเดียว การมากับบริษัททัวร์ ก็ดีตรงที่ว่าเขาจัดการเรื่องราวให้หมดเลย การชมภายในพระราชวัง เจ้าหน้าที่ได้เตรียมรองเท้าสำหรับการเดินชมเพื่อไม่ให้พื้นของเขาเสียหายด้วย 

พระราชวังฤดูร้อน (พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ) สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ที่ได้เสด็จไปเยือนฝรั่งเศส และเกิดความประทับใจกับสถาปัตยกรรมของ พระราชวังแวร์ซาย ดังนั้นเมื่อได้เสด็จกลับมาจึงได้มีรับสั่ง ให้สร้างพระราชวังให้มีความงดงามอลังการ โดยให้ชื่อว่า พระราชวังฤดูร้อน เปโตรวาเรส แต่วันนี้ผู้คนนิยมเรียว่า พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ ตามพระนามของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช

พระราชวังนี้ สร้างและออกแบบโดยศิลปินเอกในสมัยนั้นคือ ฟรานเซสโก ราสเทรลลี่ และ เลอ บรอง โดยแบ่งหน้าที่กัน  ตัวภายในพระราชวังเป็นหน้าที่หลักของ ฟรานเซสโก ราสเทรลลี่ ออกแบบในสไตล์ผสม เรอเนสซองส์ “บารอก” และคลาสสิกเน้นการตกแต่งภายในด้วยโคมไฟระย้า งานไม้แกะสลัก และภาพวาดสีน้ำมัน ส่วนภายนอก เป็นหน้าที่ของ เลอ บรอง ออกแบบเป็นน้ำพุ และลานน้ำพุ ซึ่งถือเป็นจุดหลักของพระราชวัง  ให้มีความยิ่งใหญ่ตระการตา รวมถึง บรรยากาศของภูมิทัศน์ ของต้นไม้ราวกับในเทพนิยายเลยทีเดียว 

พระราชวังฤดูร้อนนี้ ใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์และราชวงศ์เพื่อเป็นที่พักผ่อน และใช้เพื่อเป็นการล่าสัตว์ ภายในพระราชวัง  มีการแยกห้องต่างๆ มากมาย เช่น ห้องเลขานุการ ประดับภาพวาดอย่างสวยงาม ห้องเต้นรำ สำหรับงานสังสรรค์ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยภาพวาสสีน้ำมัน ที่เป็นเรื่องราวสงครามในหน้าประวัติศาสตร์ 

ส่วนที่เป็นความคลาสสิก ก็ได้แก่ภาพวาดสีน้ำมันสำคัญต่างๆ อย่างเช่น ภาพวาดของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ มหาราช  พระมเหสี พระราชโอรส พระราชิดา พระญาติวงศ์ รวมถึงภาพวาดของพระนางแคเธอรีน ตอนแต่งกองทัพไปยึดอำนาจจาก  พระเจ้าซาร์ปีเตอร์ที่ 3 ด้วย

ห้องถวายพระกระยาหาร เป็นห้องหนึ่ง ที่เป็นห้องสีขาวดูสะอาดตา ประกอบด้วย เครื่องกระเบื้องเคลือบจากอังกฤษ รวม 555 ชิ้น แต่ที่ตั้งไว้ให้ชมเพียง 198 ชิ้น 

นอกเหนือจากนี้ยังมีห้องภายในมากมาย หลายห้อง อย่างเช่น ห้องที่ตกแต่งในแบบจีน ที่ใช้ไหมทอเป็นลายนำมาปิดฝาผนัง พร้อมเครื่องตกแต่งแบบจีน และห้องหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือ ห้องภาพวาดสาวงาม 8 คน ในท่วงท่า และเสื้อผ้าแบบต่างๆ กันถึง 362 ภาพ….

ส่วนด้านนอกของพระราชวัง ผลงานของ เลอ บรอง สร้างเป็นลานน้ำพุ ซึ่งถือว่าเป็นจุดหลักของพระราชวังนี้ ได้รับการออกแบบและก่อสร้างอย่างอลังการ มีน้ำพุอยู่ถึง 100 แห่ง  จัดสวนแบบยกระดับ มีทั้งสวนตอนบน และสวนตอนล่าง  ประกอบด้วยรูปปั้น และน้ำตก ที่ผสมผสานของประติมากรรม และวิศวกรรม เข้ากับภูมิประเทศได้อย่างลงตัว

พระราชวังแห่งนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ อนุญาตให้สามารถถ่ายภาพได้ครับ การถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายภาพนั้น  ISO ที่ใช้ค่อนข้างสูง เนื่องจากสภาพแสงที่จำกัด แต่ก็ยังสามารถถ่ายภาพได้ไม่ยากเกินไปครับ อุปสรรคสำคัญก็คือ จำนวนนักท่องเที่ยวเยอะมาก…

พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ (พระราชวังฤดูหนาว)

สำหรับที่เมือง เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก พระราชวังหนึ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือ พระราชวังฤดูหนาว เฮอร์มิเทจ ซึ่งปัจจุบันจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ เรียกว่า Hermitage Museum ซึ่งเป็นที่เก็บรวมรวม  ภาพวาดที่ขึ้นชื่อว่า เป็นที่รวบรวมภาพวาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เทียบเท่ากับพิพิธภัณฑ์ ลูฟ ของฝรั่งเศส เลยทีเดียว 

พระราชวังฤดูหนาวแห่งนี้ สร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ  สร้างขึ้นในสมัย พระนางอลิซาเบธ สร้างเสร็จในปี 1762 แต่พระนางสิ้นพระชนม์ก่อนที่จะได้เข้าไปประทับ จึงกลายเป็นที่ประทับของ พระนางแคทเธอรีน ที่ 2 มหาราชินี พระนางทรงตั้งชื่อว่า Hermitage  ซึ่งมีความหมายว่า “ที่ปลดปล่อยอารมณ์โดดเดี่ยว” พระราชวังนี้ประกอบด้วยห้องต่างๆ ถึง 1,050 ห้อง 

ในปี 1764 พระนางแคทเธอรีน ได้ทรงรวบรวมศิลปวัตถุจากหลายๆ ที่นำมารวบรวมสะสมไว้ที่นี่ เนื่องจากของสะสมที่มีค่า มีมากมาย จึงได้สร้างห้องขยับขยายไปยังห้องต่างๆ ภายในพระราชวัง เพื่อไว้เก็บได้เพิ่มมากขึ้น

พิพิธภัณฑ์ เฮอร์มิเทจ ได้ชื่อว่า เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีการแสดงผลงานศิลปที่โด่งดังทั่วโลกกว่า 3 ล้านชิ้น ตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 มีทั้งผลงานของ ลีโอนาร์โด ดา วินชี, ไมเคิล แองเจโร, ราฟาเอง ติเตียน เป็นต้น รวมทั้ง ภาพวาดอิมเพรสชั่นนิสม์ฝรังเศส รวมทั้ง แวนโก๊ะ มาติส โกแกง…

นอกเหนือจากภาพวาดล้ำค่าต่างๆ ที่พระนางแคทเธอรีนได้กว้านซื้อจากยุโรปมารวบรวมไว้ที่นี่แล้ว ยังประกอบไปด้วยปฎิมากรรมทรงคุณค่าจำนวนมหึมาเลยทีเดียว ขนาดที่พระนางแคทเธอรีนยังทรงกล่าวไว้ในจดหมายฉบับหนึ่งว่า “มีแค่หนูกับฉันเท่านั้น ที่สามารถชื่นชมผลงานเหล่านี้ได้” นั้นแสดงให้เห็นถึงความมากมายของสมบัติที่เก็บเอาไว้ ที่นอกเหนือจากภาพวาดที่ทรงโปรดปรานกว่า 3,000 ภาพ ปฏิมากรรรมแกะสลักเหรียญโบราณ อัญมณีมีค่า จนถึงสมัยพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 1 จึงมีการจัดหมวดหมู่ของสะสมทั้งหมด

และที่พลาดไม่ได้สำหรับที่นี่ก็คือ ยังมี แจกันหิน มาลาไคท์  ที่เป็นหินเขียว ขนาดต่างๆ มากมาย สวนดอกไม้ลอยฟ้า และที่น่าชมมากๆ ก็คือ นาฬิกาไขลาน ที่ทำจากทองคำ รูปนกยูง ที่เป็นงานละเอียดอ่อนมาก เมื่อครบ 1 ชั่วโมง นกยูงจะยกหางลำแพน หมุนไปมาได้อีกด้วย  

ความสำคัญของพระราชวังแห่งนี้ ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ก็คือ เป็นพระราชวังที่เคยใช้รับรอง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จเยือนประเทศรัสเซีย ในการเยือนเสด็จเจริญสัมพันธไมตรี กับ ราชวงศ์โรมานอฟ ในสมัยพระเจ้าซานิโคลัส ที่ 2

เช่นเดียวกันครับ…พระราชวังแห่งนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ อนุญาตให้สามารถถ่ายภาพได้ครับ การถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายภาพนั้น ISO ที่ใช้ค่อนข้างสูง เนื่องจากสภาพแสงที่จำกัด แต่ก็ยังสามารถถ่ายภาพได้ไม่ยากเกินไปครับ อุปสรรคสำคัญก็เป็นปัญหาเดียวกันครับ คือ จำนวนนักท่องเที่ยวเยอะมาก…

ล่องแม่น้ำเนวา

สำหรับการท่องเที่ยวที่เวลาจำกัด ขอแนะนำว่า การล่องเรือชมแม่น้ำเนวา เป็นอีกอย่างที่น่าสนใจสำหรับการชมเมือง ใน เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่ประหยัดเวลา ชมเมืองได้มากสถานที่และเรือยังล่องออกแม่น้ำสายหลักของเมืองด้วย การถ่ายภาพ  ง่ายมากขึ้น เห็นศิลปะการก่อสร้างของตัวเมืองได้มากขึ้นทันทีเลยครับ…