บทความนี้มาจาก Camerart Magazine ฉบับ 242/2017 November

พระพุทธรูปองค์เหลืองอร่ามในวิหารไม้แกะสลักที่ไม่ต้องมีสีสันหลากหลายนัก แต่ให้ความรู้สึกที่สงบเรียบง่ายและอบอุ่น
Photo by : จีราภา สิทธิสถาพรกุล

รุ่งอรุณ ณ ทะเลหมอก
Photo by : วรินทร์ลดา หิรัณรุจิพงศ์

หลังฝนตกพร่ำๆ งดงามนามว่า “วัดเนรมิตวิปัสสนา”
Photo by : สุกัลยา ปิยะธนากร

ชาวคณะ AIS ล้อมวงเต้นรำกับชาวไทยดำบ้านนาป่าหนาด สนุกสนานและสืบสานวัฒนธรรม
Photo by : ศิริวรรณ ประพันธ์ธุรกิจ

แสงอาทิตย์ยามอรุณรุ่งสาดส่องประกายผ่านทิวเขากระทบกับแมกไม้ บอกให้รู้ว่าชีวิตในเช้าวันใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว
Photo by : ปรัชญ์ สิทธิสถาพรกุล

ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ และความเป็นชนบท โดยเฉพาะทางเดินที่อยู่บนท้องนา มองเห็นความโดดเดี่ยวแต่มั่นคง ทำให้อยากลองเข้าไป (เดิน) บนทางนั้น
Photo by : ศรัณย์พงศ์ อติชาติ

แสงพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ตัดกับยอดไม้ และทะเลหมอกบนภูเรือ สวยงามอบอุ่นใจ
Photo by : สมบูรณ์ ตรึงจิตรารัชต์

เอไอเอสและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมเปิดประสบการณ์พิเศษ ให้ลูกค้า เอไอเอสเปิดเลนส์สโลไลฟ์ ริมฝั่งโขง ณ จังหวัดเลย กับการท่องเที่ยวถ่ายภาพที่จะทำให้ลูกค้าได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ การใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพ ทั้งกล้องและโทรศัพท์มือถือ เรียนรู้ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพที่ไม่ให้เป็นรองใคร ตลอด 3 วันเต็ม พร้อมทั้งเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยว ทั้งศิลปวัฒนธรรมที่เรียบง่ายของชาวเมืองเลย

ร่วมออกเดินทางในวันฟ้าใส กับสายการบินแอร์เอเชีย ที่จะพาทุกท่านเยือนถิ่นเมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม จังหวัดเลย ต้อนรับทุกท่านด้วยอาหารมื้อแรก ณ ร้านบ้านท่าแพ ร้านอาหารชื่อดังที่ใช้ในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองจากนั้นนำทุกท่านไปไหว้พระขอพร ณ วัดเนรมิตวิปัสสนา วัดทำด้วยศิลาแลง แห่งเดียวในประเทศไทย ปิดท้ายด้วยการกราบนมัสการพระธาตุศรีสองรัก ปูชนียสถานสำคัญของเมืองด่านซ้าย ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานแห่งสัจจะและไมตรี ของกษัตริย์ทั้งสอง 2 แผ่นดิน ที่จะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรัก เพื่อเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่าน และแม่น้ำโขง ที่เป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักร และธรรมเนียมขึ้นไหว้พระธาตุศรีสองรัก ห้ามมิให้ใช้สีแดง หรือสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงขึ้นไปยังพระธาตุ ซึ่งถือว่าเป็นสีของเลือด

เดินทางเข้าที่พักที่ในอำเภอภูเรือ พร้อมการต้อนรับสุดพิเศษจากเอไอเอสกับคณะผีตาโขนหรือ ผีตามคน ซึ่งเป็นประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ ประจำจังหวัดเลยและมีแห่งเดียวในโลก! งานนี้ผู้ร่วมทริป AIS Trip ถึงกับร้อง WOW! กับความตื่นตาตื่นใจ ทุกท่านเลยไม่พลาดที่จะขอแชะภาพ บันทึกความประทับใจที่เอไอเอสมอบให้ต่อจากนั้นก็เข้าสู่โหมดสาระกันบ้าง กับการเรียนรู้ด้านการถ่ายภาพ แบบฉบับเร่งด่วน จากทีมวิทยากร CAMERART MAGAZINE นำทีมโดย อ.นพดล อาชาสันติสุข และ คุณสมโภช แตงไทยที่จะมาคอยแนะนำด้านการถ่ายภาพตลอดทั้งทริปเพื่อให้ผู้ร่วมทริปสนุกสนานกับการถ่ายภาพ และได้แบ่งปันมุมมองผ่านภาพถ่าย ที่เราจะร่วมบันทึกความทรงจำดีๆ ไปด้วยกันตลอดทริปนี้ปิดท้ายวันแรกกับความประทับใจ ด้วยงานเลี้ยงเล็กๆ ขับกล่อมด้วยเสียงเพลงจาก วี วิโอเลตวอเทียร์ สาวน้อยร่างเล็ก ที่น้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ในแบบของเธอ

วันที่สองของการเดินทาง ตื่นรับรุ่งอรุณยามเช้า เพราะวันนี้เอไอเอสจะพาพวกเราไปพิชิตยอดดอยภูเรือ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดที่หนาวสุดของแดนสยาม เนื่องจากอุทยานแห่งชาติภูเรือ อยู่บนพื้นที่สูงจึงมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ถือเป็นสถานที่อากาศเย็นที่สุดของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว จะมีอากาศหนาวเย็นมากจนน้ำค้างบนยอดหญ้ากลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยือน ถึงแม้ทริปนี้พวกเราจะไม่ได้เห็นแม่คะนิ้ง แต่ทุกคนก็ต้องมนต์สะกด กับความสวยงามของทะเลหมอกแบบ 360 องศา ที่ธรรมชาติรังสรรค์ให้พวกเราได้ชื่นชม งานนี้ใครที่ชอบถ่ายภาพ Landscape บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ที่จะเก็บภาพความสวยงาม และความพิเศษสุด เอไอเอสได้จัดกาแฟร้อนๆ เสริฟยามเช้า ให้พวกเรานั่งจิบกาแฟทามกลางขุนเขา ในบรรยากาศเย็นๆ เรียกว่าทริปนี้ฟินกันสุดๆ

เดินทางลงจากยอดดอยภูเรือ แวะไหว้พระขอพรกันต่อที่ วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง วัดที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามของขุนเขาที่ขึ้นสลับซับซ้อนกันไปมา ตัวโบสถ์สร้างจากไม้สักทั้งหลังแกะสลักด้วยประณีตละเอียดอ่อน งดงามอลังการ และหาชมได้ยาก เป็นอีกหนึ่งวัดที่คนเดินทางมาภูเรือต้องแวะมาสักการะ แล้วสายๆเดินทางไปนั่งชิลจิบกาแฟกันต่อ ที่ ดีมีนา คาเฟ่ร้านกาแฟที่ซ่อนตัวอยู่ทามกลางทุ่งนา ให้พวกเราได้นั่งชิลๆ ถ่ายรูปกับวิวงามๆ ณ อ.ภูเรือ กันอย่างอิ่มเอม ตามวิถีชาว Slow Life สมควรแก่เวลา ออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อที่ อ.เชียงคาน เพื่อร่วมเรียนรู้การทำผาสาดลอยเคราะห์ พิธีกรรมการสะเดาะเคราะห์ตามความเชื่อของชาวเชียงคาน สืบทอดต่อกันมานานนับร้อยปีแล้ว

การลอยผาสาด ลอยเคราะห์ เพื่อเป็นการลอยสิ่งไม่ดีทิ้งไป สิ่งที่ไม่เป็นมงคล หรือหากมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ประสบเคราะห์ร้ายถึงแก่ชีวิตเหมือนเป็นการลอยเคราะห์ออกจากตัว เมื่อลอยเคราะห์ไปแล้ว ก็จะทำให้ชีวิตดีขึ้น มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา ซึ่งงานนี้เอไอเอสให้ผู้ร่วมทริปได้ลองทำผาสาดลอยเคราะห์ และนำไปลอยริมแม่น้ำโขงด้วย นี่เป็นอีกหนึ่งวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวเชียงคานที่เราได้เรียนรู้และสัมผัส จากการเดินทางในครั้งนี้

เชียงคาน เป็นเมืองเล็กๆ เงียบๆ เสน่ห์ของการเที่ยวเชียงคานอย่างหนึ่งคือการ ปั่นจักรยานชมวิวริมโขง ทริปนี้ไม่พลาดเอไอเอสเค้าจัดหาจักรยาน เพื่อให้พวกเราได้ขี่ชมวิวริมโขงสัมผัสวิถีชีวิตแบบ Slow Life ของชาวเชียงคาน ตกค่ำก็ไปเดินชิลๆ ย้อนยุควันวาน ที่ถนนคนเดินเชียงคาน ถนนช้อปปิ้งสุดคลาสสิคริมฝั่งโขง ที่ได้รับความนิยมมากมายจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

วันสุดท้ายของการร่วมทริปกับการร่วมตักบาตรข้าวเหนียว เป็นเอกลักษณ์ของชาวเชียงคาน มนต์เสน่ห์ที่เราเคยเห็นผ่านภาพถ่ายในโลกออนไลน์ วันนี้เราได้สัมผัสบรรยากาศจริงของวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และเงียบสงบ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมนักท่องเที่ยวจึงหลั่งไหลมากมาย เพื่อได้มาสัมผัสบรรยากาศย้อนวันวาน ที่เชียงคานกันสักครั้งหนึ่ง ปิดท้ายความประทับใจในทริปนี้ด้วย หมู่บ้านวัฒนธรรมบ้านไทดำบ้านนาป่าหนาดเป็นหมู่บ้านของคนเชื้อสายไทดำ ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ในจังหวัดเลยมีวัฒนธรรมเครื่องแต่งกาย และภาษา ที่เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัวเอง และวันนี้เอไอเอสพาทุกท่านไปร่วมแต่งกายในแบบไทดำ และถ่ายภาพ Portrait สุดกิ๊บเก๋ในแบบฉบับเที่ยวไทยลึกซึ้งกับการท่องเที่ยววิถีไทย นอกจากการแต่งกายแล้ว ทาง “พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ” ยังจัดการแสดงแซปาง ที่อดีตจะขับร้องร่ายมนต์เป็นทำนองเพื่อเชิญผีสางเทวดามารับเครื่องเซ่นที่ต้นปาง แต่ปัจจุบันการแสดงแซปางเพื่อถือเป็นการต้อนรับแขกที่มาเยือน งานนี้ผู้ร่วมทุกท่านขอร่วมสนุกลงไปร่วมฟ้อนรำกันอย่างสนุกสนานหมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ ที่ยังคงสืบทอดสานต่อวัฒนธรรม ที่ส่งต่อกันรุ่นต่อรุ่นให้กับเด็กๆ เยาวชนของชาวไทดำ ได้ร่วมรักษาประเพณีวัฒนธรรมกันต่อไปมาที่นี่เราจะได้เห็นเด็กๆ ร่วมกันทำกิจกรรมกับนักท่องเที่ยว เพราะทางผู้นำชุมชนต้องการให้เด็กๆ ได้ซึมซับวัฒนธรรมของบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมา และร่วมกันรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทดำ “พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ” จึงเปรียบเสมือนโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ให้กับทุกๆ คน ได้เข้าไปสัมผัส เป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดประทับใจที่เอไอเอสมอบให้ นอกจากภาพสวยๆ มากมายที่ได้ร่วมบันทึกตลอดการเดินทาง แต่ในภาพเหล่านั้นยังซ่อนเรื่องราวที่ช่วยบันทึกความทรงจำดีๆ กับเอไอเอสทริปเปิดเลนส์… สโลว์ไลฟ์ริมฝั่งโขง ที่…เมืองเลย