เรื่อง+ภาพ : ศุภฤกษ์ นฤเบศร์ไกรสีห์

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine ฉบับ 224/2016 May

การปรับตั้งจอภาพ

การดูภาพดิจิตอลซึ่งเป็นข้อมูลตัวเลข จำเป็นต้องดูผ่านตัวกลาง เช่น นำไปพิมพ์ อัดขยาย หรือดูผ่านจอมอนิเตอร์ แต่ละตัวกลางแม้ว่าจะแสดงภาพจากต้นฉบับเดียวกัน ก็อาจจะให้สีสันที่แตกต่างกันออกไป เช่น สีแดง R255G0B0 จอมอนิเตอร์ให้สีแดงสด กระดาษอัดขยายภาพให้สีแดงคล้ำ (ปนดำ) ส่วนเครื่อง Inkjet ที่ใช้อยู่อาจจะให้สีแดงอมเหลือง (ออกส้ม) หากถามว่าภาพใดคือภาพที่ถูกต้อง ต้องตอบว่าไม่มี คำว่าถูกต้องคือ เหมือนต้นฉบับ ซึ่งไม่มีอุปกรณ์ชนิดใดในโลกที่แสดงภาพได้เหมือนต้นฉบับ 100% เช่นเดียวกับภาพจากฟิล์มที่ไม่สามารถแสดงสีสันได้เหมือนต้นฉบับ และยังขึ้นอยู่กับกระดาษอัดขยายภาพ น้ำยา แสงที่ใช้ในการดูภาพด้วยเช่นกัน ดังนั้น การดูภาพดิจิตอลจำเป็นต้องกำหนดว่าเรานำภาพไปแสดงผลที่อุปกรณ์ชนิดใด แล้วปรับแต่งภาพให้ดีที่สุดกับอุปกรณ์ชนิดนั้น แต่ถ้ามีการดูภาพด้วยอุปกรณ์แสดงผลที่หลากหลายและต้องการให้ภาพออกมาใกล้เคียงกันมากที่สุด จำเป็นต้องสร้างระบบควบคุมสีขึ้นมาเพื่อให้ทั้งระบบแสดงภาพได้ใกล้เคียงกันมากที่สุด การสร้างระบบควบคุมสีจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Spectrophotometer ในการวัดแสงสีของจอภาพ กับโปรแกรมควบคุม ซึ่งจะส่งข้อมูลสีไปยังจอภาพแล้วนำค่าแสงที่วัดได้จาก Spectrophotometer มาสร้างเป็นแผนที่สีของอุปกรณ์ชนิดนั้น หากไม่มี Spectrophotometer เราจะต้องจูนสีโดยใช้ตามองแล้วกำหนดเกณฑ์ขึ้นมาซึ่งยากที่จะได้สีที่ถูกต้อง โดยเฉพาะกับจอภาพแบบ LCD ที่มีมุมมองแคบ

ส่วนตัวแล้วผมซื้อ Spectorphotometer หรือเครื่องจูนจอภาพ หรือสไปเดอร์ที่เรามักเรียกติดปากกันมาไว้ใช้งานส่วนตัว ที่ตัดสินใจซื้อไว้ใช้เองเลยเพราะมีพี่สาวบินกลับจากอเมริกา เลยฝากซื้อติดมา ราคาไม่แพงพอจ่ายได้ เป็นรุ่น Spyder 3 Elite ส่วนตัวแล้วแนะนำว่าหากคุณซีเรียสเรื่องถ่ายภาพดิจิตอลจริงๆ แนะนำให้ซื้อเก็บไว้ อาจจะหุ้นกับเพื่อนๆ จะได้ใช้หลายๆ คน คุ้มเงินหน่อย หรือไปใช้บริการที่ร้านขายอุปกรณ์ถ่ายภาพที่เขารับจูนจอภาพก็ได้ แต่อาจจะไม่สะดวกเท่าไรที่ต้องยกเครื่องคอมทั้งตัวไปให้จูนจอ หากเป็นร้านอัดขยายภาพจะมีชุดจูนสีแบบชุดใหญ่ จูนได้ทั้งจอภาพและภาพอัดขยาย หากผมจำเป็นต้องทำงานด้านอัดขยายภาพคงจะต้องหามาไว้ใช้ประจำร้านอยู่เหมือนกัน

ถ้าเราไม่ปรับตั้งจอภาพให้ใกล้เคียงมาตรฐาน อย่าหวังว่าสามารถพิจารณาคุณภาพของไฟล์ภาพจากกล้องดิจิตอลได้ซึ่งเหตุผลนั้นผมได้เขียนไว้ในฉบับที่แล้ว การปรับตั้งจอภาพมีขั้นตอนดังนี้

การเตรียมความพร้อมในการปรับตั้งจอภาพ

ห้องที่ใช้ในการดูภาพทำงานด้านภาพ ควรเป็นห้องที่มีความสว่างคงที่ ไม่ควรมีแสงภายนอกเข้ามารบกวน เพราะจะทำให้มองเห็นภาพที่จอมอนิเตอร์ไม่คงที่ ตาจะปรับสภาพไปตามแสงสว่างจากภายนอก สีของห้องต้องเป็นสีกลาง เช่น ขาว เทา ใช้ไฟสีขาวเท่านั้น และต้องมีความสว่างมากเพียงพอ คือ มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจน สบายตา ตัวอย่างเช่นห้องคอมพิวเตอร์ที่ผมใช้ทำงานขนาดประมาณ 3×4 เมตรสูง 2.5 เมตรสีขาว ผมใช้หลอดประหยัดไฟขนาด 25 วัตต์จำนวน 4 ดวงในการให้แสงสว่าง

ภาพที่จอมอนิเตอร์ควรเป็นภาพขาวดำ อย่าใช้ภาพสีเพราะจะทำให้ตามองสีผิดเพี้ยนและมองความผิดเพี้ยนของสีได้ยากมาก เปิดมอนิเตอร์เอาไว้ประมาณ 30 นาทีเพื่ออุ่นจอให้สีจอคงที่ ปรับตำแหน่งความสูงและที่นั่ง พยายามมองจอภาพให้อยู่ตรงกลางมากที่สุด โดยเฉพาะกับจอที่มีมุมมองแคบ (เวลาเราขยับตัวซ้ายขวาจะเห็นว่าสีเกิดการเปลี่ยนแปลง) ผมแนะนำให้ใช้จอที่มีมุมมองกว้าง สีจะได้ปรากฏต่อสายตาคงที่ ซึ่งจอดีๆ ปัจจุบันราคาไม่แพง จากนั้นก็เริ่มปรับสีจอภาพกันเลย

การปรับสีจอภาพแบบใช้สายตา

เนื่องจากตอนนี้ผมเปลี่ยนไปใช้ระบบ Window 7 มีระบบปรับสีมาให้เรียบร้อย ไม่ต้องพึ่งพา Adobe Gamma เหมือนแต่ก่อน ดังนั้นผมจะแนะนำการปรับตั้งจอภาพโดยใช้ระบบของ Window 7 เป็นหลักตามขั้นตอนดังนี้

  1. เข้าไปที่ Control Panel > Appearance and Personalization > Display เลือก Calibrate Color ที่ด้านซ้ายมือ
  1. โปรแกรมจะขึ้นข้อความขึ้นมา แนะนำให้อ่านคำแนะนำในการจูนจอที่ How do I calibrate my display? จากนั้นเลือก Next
  1. อาจจะมีคำเตือนขึ้นมาว่าตอนนี้จอภาพได้รับการปรับตั้งแล้ว(เฉพาะเครื่องที่จูนจอมาแล้ว หากไม่เคยจูนคำเตือนนี้จะไม่ปรากฏขึ้นมา)
  1. ต่อมาโปรแกรมจะให้เราปรับตั้งระบบของจอภาพไปที่ Factory Setting ให้ไปที่ตัวจอภาพ เลือกเมนู แล้วดูว่า Factory Setting อยู่ที่ไหน ให้ปรับจอไปที่ Factory Setting แล้วเลือก Next
  1. โปรแกรมจะบอกวิธีการปรับค่า Gamma ว่าอย่างไรจึงจะถูกต้อง วิธีการปรับค่า Gamma ต้องให้จุดตรงกลางวงกลมกลืนไปกับวงกลมให้มากที่สุด เลือก Next
  1. โปรแกรมจะแสดงหน้าจอปรับตั้งค่า Gamma ตอนแรกระดับการปรับจะอยู่ตรงกลาง

7. ทำการปรับค่า Gamma ให้จุดตรงกลางกลืนไปกับวงกลมรอบข้างให้มากที่สุด เลือก Next

  1. โปรแกรมจะให้ปรับค่า Brightness หากปรับไม่ได้ให้เลือก Skip (โน้ทบุคบางตัวปรับความสว่างไม่ได้) หากปรับได้เลือก Next
  1. วิธีการปรับความสว่างของจอภาพ คือ ให้เสื้อเชิตสีดำแยกออกจากชุดสูทสีดำ และมองเห็นเป็นสีดำจัดมีรายละเอียด ส่วนด้านหลังจะต้องเห็นกากบาทปรากฏแยกออกมาเล็กน้อย
  1. ทำการปรับค่า Brightness ที่จอภาพจนเชิตดำแยกออกจากเสื้อสูทเห็นรายละเอียดชัดเจน และปรากฏรูปกากบาทด้านหลังแยกออกจากฉากหลัง เลือก Next
  1. ต่อมาเป็นการปรับ Contrast โดยดูจากสีดำและขาว ต้องปรับให้ดำเป็นดำส่วนเสื้อขาวเป็นขาวปรากฏรายละเอียดชัดเจน
  1. ปรับค่า Contrast ที่จอจนได้รายละเอียดของเสื้อชัดเจน
  1. ต่อมาเป็นการปรับสีให้เทาเป็นเทา โปรแกรมจะบอกไว้ว่าแต่ละเฉดคือสีอะไร ตอบ Next
  1. ทำการปรับสีจอโดยการเลื่อนแถบสไลด์สีแต่ละสี ปรับให้สีเทาดูเป็นเทามากที่สุด ตอบ Next
  1. โปรแกรมจะทำการสร้างระบบควบคุมสีของจอภาพ สามารถเปรียบเทียบภาพก่อนและหลังการปรับได้ เลือก Finish หากปรับตั้งเสร็จเรียบร้อย
  1. ภาพหน้าจอหลังจากการปรับแต่งแล้วจะเป็นสีเทาที่ใกล้เคียงเทาและมีความสว่างความเปรียบต่างที่ดีที่สุด

จอภาพที่ปรับโดยใช้ระบบควบคุมสีของ Window สามารถปรับสีได้เฉพาะจุดขาว ดำ เทา ซึ่งเป็นสีกลางเท่านั้น ในส่วนสีเทาอาจจะปรับให้เป็นเทาได้ไม่ทั้งหมดทุกเฉดด้วย โดยเฉพาะจอ LCD ที่อาจจะมีสีผิดเพี้ยนไปคนละทิศทางระหว่างส่วนเทาอ่อนกับเทาเข้ม ทำให้ไม่สามารถควบคุมสีได้ทั้งหมด ยกเว้นแต่จะทำการปรับสีจากกราฟ Curve ของการ์ดแสดงผล (Window XP) ซึ่งการปรับตั้งนั้นค่อนข้างยาก แต่อย่างไรก็ตาม การปรับสีโดยใช้ระบบของ Window ไม่สามารถควบคุมเฉดสีของภาพได้ เพราะแผนที่ของสีทั้งหมดไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมา การใช้ Spectrophotometer เช่น Spyder, EyeOne จะได้ผลที่ดีกว่า