คุณเหมี่ยว ดวงพร ใบพลูทอง ช่างภาพสาวมืออาชีพรุ่นใหม่ไฟแรงแนว Pre Wedding / Portrait มีผลงานมากมายลงตีพิมพ์ในนิตยสารแฟชั่น-ผู้หญิงชั้นนำหลายฉบับ กับเทคนิคการใช้กล้อง Canon EOS R กล้อง Mirrorless Full Frame รุ่นแรกจาก Canon
ปกติ เหมี่ยวใช้กล้อง DSLR ก็จะมองภาพของกล้อง Mirrorless ไปอีกแบบหนึ่ง พอมาจับ EOS R เข้า ตอนแรกก็ไม่รู้สึกว่ากล้องตัวนี้เป็น Mirrorless เนื่องจากบอดี้ใหญ่ จับแล้วถนัดมือ ต่างจาก Mirrorless อื่นๆ ที่จับแล้วไม่คล่องมือเท่าไหร่ ช่วงแรกก็ไม่ถนัดฟังก์ชัน เพราะปกติจะใช้โหมด M ตลอด ตอนถ่ายด้วยกล้อง DSLR ก็ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ไม่ได้ใช้ปุ่มอื่นๆที่กล้องให้มา พอใช้ EOS R ไปสัก 2-3 วัน ก็ร้องอ๋อ..เริ่มเข้าใจแล้วว่า Canon ออกแบบปุ่มให้เราตั้ง Custom Function ที่เราถนัดได้เอง โดยที่ไม่ต้องละสายตาออกจากช่องมองภาพก็สามารถปรับได้
สิ่งสำคัญของการถ่ายภาพแนว Pre Wedding / Portrait ก็คือ เรื่องการโฟกัส ปกติ ถ้าคนใช้ออโต้โฟกัสจะทราบว่า ถ้าเลยจุดที่กำหนดมาให้แล้ว กล้องบางตัวมันไม่ครอบคลุม เราก็ต้องโฟกัสก่อนแล้วกลับมาในคอมโพสที่เราต้องการอีกที แต่สำหรับโฟกัสของ EOS R จะวิ่งไปตรงไหนก็ได้ที่อยู่ในเฟรม ยังไงก็โฟกัสได้ เพราะว่าโฟกัสทำมาเยอะ ทำให้เกิดความแม่นยำของงานมากขึ้น
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2018/11/PPTV-HD_01.jpg)
“เมื่อก่อน เหมี่ยวถ่ายภาพคนเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง จะสั่งแบบให้โพสท่านิ่งๆ ในแบบที่เราต้องการ เพราะมีปัญหาเรื่องโฟกัสไม่เข้า ปรับโฟกัสไม่ชัด หรือหลุดโฟกัสบ้าง แต่เมื่อเทสกับกล้อง EOS R เหมี่ยวจะให้แบบเต้นไปเลยแล้วก็ถ่ายภาพ แล้วก็ดูว่าโอเคไหม มีตัวช่วย คือ Eye Detection และ Face Detection ที่เป็น Eye EF เปิดให้ Track ตามหน้าแบบ กล้องจะจำค่าว่าหน้าอยู่ตรงนี้ พอแบบขยับไปตรงไหน โฟกัสก็ตามไป กรณีแบบวิ่งไปอยู่มุมขอบภาพก็ยังโฟกัสได้อยู่ ถือว่าจุดโฟกัสเยอะมากเมื่อเทียบกับค่ายอื่นๆ ช่วยให้ทำงานเร็ว แม่นขึ้น ความผิดพลาดน้อยลง ทั้งในส่วนภาพถ่ายและวิดีโอ”
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2018/11/PPTV-HD_02.jpg)
เรื่อง Skin Tone ของกล้อง Canon นั้นดีอยู่แล้ว อย่างที่ไปเทสมา คือการไล่โทนของผิว เหมี่ยวลองถ่ายภาพเด็ก ถ่ายย้อนแสง ถ่ายในสภาพที่แสงอาจจะเกิดปัญหา เวลาเราปรับค่าดึงขึ้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก สมมติทำสิ่งพิมพ์ เช่น แมกกาซีน ถ้าดึงขึ้นเยอะมันจะเป็นกากที่ผิว ตอนเอาไปพิมพ์ เวลาเอาไปรีทัชก็จะเห็น แค่ดึงขึ้น1/2 สต็อปก็ไม่โอเคแล้ว แต่ไฟล์ภาพ EOS R ถือว่าดี สามารถเก็บดีเทลของผิวได้
Skin Tone ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในการถ่ายภาพ Pre Wedding / Portrait เช่น สีผิวคนไทย สีผิวฝรั่ง สีผิวเด็ก ก็มีผล กล้องบางตัว ถ้าเก็บน้ำหนักสีไม่ได้ สีไม่ตรง ผิวจะไม่สวย ดูช้ำๆ
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2018/11/PPTV-HD_03.jpg)
สำหรับมือใหม่ที่สนใจงานถ่ายงานแนว Pre Wedding / Portrait คุณเหมี่ยว ดวงพร แนะนำว่า คนที่เริ่มใหม่ แต่ไม่อยากใช้ DSLR นั้น กล้อง Mirrorless Full Frame ตัวนี้ก็ง่าย เพราะมีฟังก์ชันเลือกปรับได้ง่าย สามารถมองใน Viewfinder ได้เลย เช่น ไม่ถนัดวัดแสง ภาพออกมา Under ไป ใน Viewfinder ก็จะแสดงค่า Under เราก็สามารถปรับให้พอดีในน้ำหนักที่เราโอเคจากจอช่องมองได้เลย หรือว่าที่ไม่ถนัดมองช่องมอง ก็สามารถปรับจากจอทัชสกรีนได้ ทุกอย่างอยู่ที่จอ
หรืออย่างคนที่มีปัญหาเรื่องโฟกัสซึ่งพบมาก โฟกัสไม่เข้า ทำไมถ่ายแล้วไม่ชัด Canon EOS R กล้อง Mirrorless Full Frame ตัวนี้ ช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ตัวกล้องถูกออกแบบมาให้เรามองและใช้นิ้วเลื่อนที่จอทัชสกรีนแล้วโฟกัสตามได้เลย แต่ถ้าถ่ายภาพคน ใช้ Eye Detection ช่วย ก็ช่วยได้เยอะ อย่างไรก็โฟกัสเข้าแน่นอน
“อย่างตอนที่ไปเทส EOS R ปกติเหมี่ยวถ่ายเจ้าสาวมีผ้าคลุมศีรษะ ถ้าใช้ออโต้โฟกัสส่วนใหญ่โฟกัสจะไปตกที่ผ้าคลุม ไม่ใช่ที่ตา ถึงจะ Close Up เข้าไป อย่างไรเราก็ต้องปรับเป็นแมนนวลแล้วโฟกัสอีกทีในสภาพแสงต่างๆ แต่สำหรับ EOS R ลองเปิด Eye AF ถ่าย มันก็จับที่ตา แต่ผ้าคลุมไม่ชัด ความที่เหมี่ยวใช้ค่า F ตื้นมาก ก็ยังเข้าอยู่ ที่ประทับใจคือ ลองใช้ Mount กับเลนส์ตัวเดิมที่เรามีอยู่ ไม่ใช่ RF ที่แคนนอนทำขึ้นมา แต่ก็ยังโฟกัสเข้า ความสัมพันธ์หรือการสื่อสารระหว่างกล้องกับเลนส์ก็ยังดีอยู่ ก็เจ๋งเหมือนกันนะ ทำให้มือใหม่มีความผิดพลาดเรื่องโฟกัสน้อย วัดแสงได้ตรงมากขึ้น Skin Tone ได้คุณภาพไฟล์ดี สามารถปรับรูปในไอแพดแล้วอัพโหลดขึ้นโซเชียลมีเดียได้ทันที”
![](https://www.camerartmagazine.com/wp-content/uploads/2018/11/PPTV-HD_04.jpg)
คุณเหมี่ยว ดวงพร ช่างภาพมืออาชีพ เปิดมุมมองเรื่อง “สิ่งสำคัญที่สุด” ของการถ่ายภาพแนว Pre Wedding / Portrait สำหรับผู้ที่สนใจจะกระโจนเข้าสู่วงการนี้ว่า สิ่งสำคัญคือ เริ่มจากตัวเองก่อนว่า เราชอบแบบไหน ทำอย่างไรให้คนยอมรับในสิ่งที่เราชอบ เราอาจจะเคยชินกับการดูภาพนี้แล้วอย่างทำตามแบบ จนลืมคิดไปว่าเราเองก็สร้างสรรค์อะไรได้มากกว่าการเลียนแบบ เลียนแบบอาจเป็นจุดเริ่มต้น จากนั้นก็ศึกษาวิธีการว่า เขาทำอย่างไร เขาคิดอย่างไรถึงได้ภาพแบบนี้ เหมือนการเรียนรู้
แต่สุดท้ายแล้วมันก็จะกลับมาที่เราว่า ในช่างภาพ 1,000 คน เราต่างไปจาก 1,000 คนอย่างไร ความยากไม่ได้อยู่ที่คนอื่น อยู่ที่ตัวเราเองว่าจะทำอย่างไรให้ภาพออกมาสวย ทำอย่างไรให้คนยอมรับเราได้ ทำอย่างไรที่จะสื่อจากภาพให้คนเข้าใจเราได้…นั่นคือ สิ่งสำคัญ